เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา Toyota ได้ประกาศเพิ่มจำนวนยอดขายรถยนต์ของทางบริษัทที่ติดตั้งระบบส่งกำลังรุ่นใหม่ อาทิเช่น เครื่องยนต์ที่พัฒนาภายใต้แนวคิด TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 60% ภายในปี 2021 ให้เป็น 80% ภายในปี 2023 และได้อธิบายเพิ่มเติมในส่วนของเครื่องยนต์ 2000 cc, เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT (CONTINUOUSLY VARIABLE TRANSMISSION), และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 WD (4 Wheel Drive) เพื่อตอกย้ำความสำคัญของการพัฒนาระบบส่งกำลังที่มีบทบาทในการช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในยุคแห่งการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า

ในวันเดียวกันนี้เอง Chief Engineer Yamagata จากแผนกวางแผนผลิตภัณฑ์ได้กล่าวในงานบรรยายของ Toyota Motor Corporation ณ กรุงโตเกียว ว่า “ระบบส่งกำลังนี้จะถูกใช้ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีนโยบายส่งเสริมให้เข้าสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่รวดเร็วกว่า” Toyota จึงมีแผนขยายการขายระบบส่งกำลังตามแนวคิด TNGA นี้ไปทั้งในญี่ปุ่น ประเทศตะวันตก และจีน ซึ่งระบบส่งกำลังนี้สามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ให้ลดลงจากปี 2015 ได้ถึง 18% ด้วยกัน

ส่วนเครื่องยนต์ 2000 cc แบบ 4 สูบที่พัฒนาขึ้นนี้ มี Thermal Efficiency อยู่ที่ 40 - 41% ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่สูงอันดับต้น ๆ ของโลก Mr. Yamagata กล่าวว่า “สามารถชดเชยในส่วนอื่น ๆ” ของยานยนต์ที่พัฒนาภายใต้แนวคิด TNGA ได้ ส่วน CVT นั้น นับเป็นครั้งแรกในโลกสำหรับรถยนต์นั่งที่มีการนำ Launch Gear มาใช้ในการเพิ่ม Transmission Efficiency ส่วนระบบ 4WD ได้ออกแบบโครงสร้างให้สามารถควบคุมแรงบิดที่ล้อหลังซ้ายขวาแยกจากกันได้โดยอัตโนมัติ และสามารถปลี่ยนไปเป็นการขับเคลื่อนแบบ 2WD ได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเกียร์แบบธรรมดา (Manual Transmission) ซึ่งมี Transmission Efficiency มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกออกมาอีกด้วย