รี้ดฯ หนุนไทยแลนด์ 4.0 ปรับโฉม ME ใหม่ รับตลาดทุกมิติ

อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 2561
  • Share :
  • 675 Reads   

รี้ด เทรดเด็กซ์ หนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ปรับโฉม ME (Manufacturing Expo 2018) สู่โซลูชั่นแพล็ตฟอร์มเพื่อการผลิตครบวงจร รับกระแสการเปลี่ยนแปลงสู่ยุค 4.0 ชู MExperience สร้างประสบการณ์ใหม่ เชื่อมโยงเทคโนโลยี หนุนผู้ประกอบการไทย ใช้จุดแข็งฐานการผลิตคุณภาพสร้างเครือข่ายพันธมิตรอาเซียน ชิงฐานการผลิตรถยนต์แห่งอนาคตและหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติ  โดยงาน ME นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 23 มิถุนายนนี้ ณ ไบเทค  บางนา

นายดวงเด็ด ย้วยความดี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เผยถึงการจัดงาน ME18   (เอ็มอี)  จากแนวโน้มของการปฏิวัติอุตสาหกรรมสู่ยุค 4.0 ทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นการผลิตที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกแบบไร้ระยะทาง รี้ดฯ พร้อมตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ ไทยแลนด์ 4.0 เดินหน้าสนับสนุน 6 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve industries) คือ ชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ ชิ้นส่วนอากาศยาน อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ครบวงจร และการแปรรูปอาหาร โดยเปิดเวทีสัมมนา MExperience เผยการเปิดประสบการณ์ใหม่กับเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมการผลิต ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย คำตอบในการเปลี่ยนแปลงขบวนการผลิต และการผลิตชิ้นส่วนที่มีมูลค่าเพิ่มที่จะเกิดขึ้นในงาน ME2018

ดร. กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เผยมุมมองวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกและอาเซียนที่เชื่อมโยงประเทศไทย จากการประเมินตัวเลขจีดีพีและดัชนีเศรษฐกิจของไทยและของโลกในปี 2561 เศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยเศรษฐกิจโลกคาดเติบโตอยู่ที่ระดับ 3.1 %  เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวได้ในระดับ   2.5 %  จากตลาดแรงงานฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและการลงทุนของภาคเอกชน โดยค่าเงินดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่า เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก  แนวโน้มดังกล่าวส่งผลดีต่อภาคส่งออกไทย และการลงทุนโดยตรงของสหรัฐในไทย โดยเฉพาะภาคการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สำหรับกลุ่มประเทศอาเซียน คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 5.3% จากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกและสินค้าภาคการเกษตร โดยประเทศไทยคาดว่าจะมีการส่งออกในปีนี้ขยายตัว  7-8 %   โดยอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มสดใสในปีนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมค้าปลีกอีคอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว บริการทางการแพทย์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

นายดวงเด็ด กล่าวเพิ่มเติมจากยุทธศาสตร์ชาติไทยแลนด์ 4.0 โดยอุตสาหกรรมใหม่และพัฒนาอุตสาหกรรมเก่า 5+5 ให้เป็นอุตสาหกรรมในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ในระยะ 20 ปีข้างหน้า  โดยภาครัฐมุ่งหวังว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี พศ. 2565 ประเทศไทยควรจะมีโรงงานที่ใช้หุ่นยนต์แขนกลไม่น้อยกว่า 70,000 โรงงาน จากจำนวนโรงงานทั้งหมด 140,000 โรงงาน ในช่วงปี 2559 – 2560 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการนำเข้าหุ่นยนต์มาใช้ในภาคอุตสาหกรรมเฉลี่ยประมาณปีละ 3,500 ตัว ในขณะที่ปี 2561 คาดการณ์ว่าผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม และ อิเล็กทรอนิกส์ จะนำหุ่นยนต์แขนกลมาใช้มากที่สุด

งาน ME (เอ็มอี)   จัดภายใต้แนวคิด การนำเสนอ โซลูชั่น ในรูปแบบของการเชื่อมโยงเทคโนโลยี แทนการนำเสนอเครื่องจักรแบบเดี่ยว ๆ แบบในอดีต โดยจะเป็นเวทีกลางให้กับเจ้าของเทคโนโลยีค่ายต่าง ๆ ได้ร่วมกันจัดทำเทคโนโลยีต้นแบบ นำเสนอแก่ผู้ประกอบการให้ เข้าใจ เข้าถึง และเข้าใช้งาน เสมือนการผลิตจริง  ซึ่งจะประกอบไปด้วย เทคโนโลยีล่าสุดสำหรับการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ทั้งในกลุ่มพลาสติก แม่พิมพ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ โดยเชื่อโยงกับระบบอัตโนมัติแขนกล เซ็นต์เซอร์ การตรวจวัด และการตรวจนับ ก่อนการนำไปประกอบเป็นชิ้นงาน เป็นการนำเสนอแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย และหาคำตอบในการเปลี่ยนแปลงขบวนการผลิตที่เพิ่มประสิทธิภาพ และมุ่งสู่การผลิตชิ้นส่วนที่มีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีใหม่กับวัสดุชนิดใหม่ ๆ ที่มีน้ำหนักเบาแต่มีคงทนแข็งแรงกว่า    โดยการผลิตรถยนต์แห่งอนาคตและหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติ ยังเป็นเทรนด์ที่มาแรง และประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นฐานการผลิตที่มีความแข็งแกร่งมากจากประสบการณ์ที่ได้ร่วมผลิตให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ผู้ประกอบการไทยจึงควรอาศัยจุดแข็งของไทย ชิงฐานการผลิตรถยนต์แห่งอนาคตและหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติ ด้วยการจับมือสร้างเครือข่ายพันธมิตรในอาเซียนและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสอดคล้องการผลิต

ไฮไลต์กิจกรรมในงาน ได้แก่ “Cutting tools runway” นำเสนอชิ้นงานเทคโนโลยีผ่านรูปแบบแฟชั่นโชว์ และ “Top of the best” เวทีสาธิตประสิทธิภาพของเครี่องจักรและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องแบบ Integrated system ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการ Total Solution แก่กลุ่มผู้ซื้อและเข้าชมงาน นอกจากนี้ยังได้จัดให้มี MFair งานจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น และผู้รับช่วงการผลิตของไทย ในอุตสาหกรรมสนับสนุน เพื่อสร้างพื้นที่ในการเจรจาการค้าให้กับผู้ร่วมงาน สร้างโอกาสแห่งการเติบโตของอุตสาหกรรมไทยอย่างรอบด้านครบถ้วนทุกมิติ งานเอ็มอี จะจัดขึ้นในวันที่ 20-23 มิถุนายน 2561 ณ ไบเทค บางนา