รัฐบาลญี่ปุ่นเผย เตรียมนำชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อ “White Country” ภายในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งหน้า พร้อมพิจารณาทบทวนนโยบายเพิ่มเติมถัดจากมาตรการควบคุมการส่งออกวัสดุกึ่งตัวนำ 3 ชนิด ซึ่งมีแนวโน้มครอบคลุมไปยังวัสดุ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่อาจนำไปใช้ทางการทหารได้ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมการส่งออก แสดงความเห็นว่า ข้อพิพาทระหว่างญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ในครั้งนี้ อาจเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าจีน - สหรัฐ 

ผู้เชี่ยวชาญจากธุรกิจเคมีภัณฑ์รายหนึ่ง แสดงความเห็นว่า “เอกสารที่จำเป็นในการยื่นเรื่องส่งออกสินค้าไปยังเกาหลีใต้ในครั้งนี้ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม จากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก” ซึ่งหากเกาหลีใต้หลุดจาก White Country จริง ในอนาคตการส่งออกอาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ส่งออกแล้ว ประเด็นด้านเอกสารไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากเป็นกรณีเดียวกันกับการส่งออกไปยังประเทศนอกรายชื่อ เช่น ไต้หวัน

ซึ่งในส่วนของการส่งออกนั้น หากไม่นับผลิตภัณฑ์ในหมวดอาหาร และไม้ จะพบว่าผลิตภัณ์ที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากคือเคมีภัณฑ์ และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนในระดับนานาชาติ  เนื่องจากเป็นวัสดุที่ถูกใช้งานในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก และประธานบริษัทเคมีภัณฑ์รายหนึ่ง ได้แสดงความเห็นว่า “ผลกระทบจะรุนแรงจนไม่จบแค่เรื่องระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศ โดยส่วนตัวผมเอง ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้เป็นอย่างยิ่ง”

ในอีกด้านหนึ่ง หลายฝ่ายมองว่า ข้อพิพาทครั้งนี้ เป็นผลจากสงครามการค้าจีน - สหรัฐ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น สืบเนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ถูกควบคุมการส่งออกอย่าง Hydrogen Fluoride Photoresist ซึ่งเป็นวัสดุที่ขาดไม่ได้ในการผลิตแผงวงจรขนาด 5 นาโนเมตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ สำคัญต่ออุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ และ 5G เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการควบคุมการส่งออกนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐ และจีนก็ว่าได้

ปัจจุบัน ผู้ผลิตที่ถูกมองว่าเป็นผู้นำเทคโนโลยีเซมิคอนดัคเตอร์มีอยู่ 2 บริษัท คือ Samsung Electronics จากเกาหลีใต้ และ Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC) จากไต้หวัน ซึ่งอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยืนยันว่า TSMC เลือกข้างไต้หวัน ในขณะที่ Samsung เริ่มมีแนวโน้มจะเลือกข้างจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงอาจเป็นเหตุให้สหรัฐเสนอแนวทางการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ให้กับญี่ปุ่น ซึ่งหาก Samsung ขาดซัพพลายในส่วนนี้ไป อาจเป็นตัวแปรสำคัญให้การพัฒนาเทคโนโลยีในจีนหยุดชะงักได้ ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องภายในอุตสาหกรรมยิ่งแน่ใจว่า ข้อพิพาทครั้งนี้ เป็นผลจากสงครามการค้าจีน - สหรัฐนั่นเอง 

คาดการณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะถอดชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อ White Country ภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยผู้อาวุโสในรัฐบาลญี่ปุ่น แสดงความเห็นว่า “เราจะไม่โอนเอนตามข้อเรียกร้องของเกาหลีใต้อย่างเด็ดขาด และรัฐบาลทรัมป์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้” ซึ่งแม้เกาหลีใต้จะร้องเรียนไปยัง World Trade Organization (WTO) แล้ว แต่โดยทั่วไป ขั้นตอนการพิจารณา จนถึงคำตัดสิน ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ปี ทำให้ในช่วง 2 - 3 ปีนี้เอง ที่ทั้ง 2 ประเทศ อาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องก็เป็นได้