ประเดิมต้นปี 2567 'บีโอไอ' อนุมัติส่งเสริมลงทุน 4 โครงการยักษ์ รวมเกือบ 3 หมื่นล้านบ.

ประเดิมต้นปี 2567 'บีโอไอ' อนุมัติส่งเสริมลงทุน 4 โครงการใหญ่รวมเกือบ 30,000 ล้านบาท

อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 2567
  • Share :
  • 7,471 Reads   

เปิดต้นปี 2567 'บีโอไอ' อนุมัติส่งเสริมลงทุน 4 โครงการใหญ่รวมเกือบ 30,000 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท เน็กซ์ ดีซี, บริษัท ซีทีอาร์แอลเอส ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย), บริษัท ซิง ต๋า สตีล คอร์ด (ไทยแลนด์), และบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (มหาชน) 

การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) เมื่อ 6 ก.พ. 67 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บอร์ดบีโอไอประเดิมต้นปี 2567 ให้การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ 4 โครงการ รวมมูลค่า 29,702 ล้านบาท 

โครงการที่ได้รับอนุมัติครั้งนี้เป็นโครงการลงทุนสำคัญ และเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในศักยภาพของไทย โดยเฉพาะโครงการ Data Center ขนาดใหญ่ 2 ราย จากออสเตรเลียและอินเดีย ซึ่งเป็นกิจการที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล สำหรับโครงการผลิตลวดเหล็กที่ใช้กับยางล้อรถยนต์ จะช่วยเสริมซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ให้แข็งแกร่งขึ้น ในส่วนของโครงการผลิตไอน้ำโดยใช้เชื้อเพลิงจากขยะ จะช่วยลดปัญหาปริมาณขยะในประเทศ ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

บอร์ดบีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ 4 โครงการ รวมมูลค่า 29,702 ล้านบาท ดังนี้

1) บริษัท เน็กซ์ ดีซี จำกัด ผู้ให้บริการ Data Center ระดับ Hyperscale รายใหญ่อันดับ 1 ของออสเตรเลีย ลงทุนในโครงการ Data Center มูลค่า 13,759 ล้านบาท ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยจะให้บริการ Data Center ที่มีมาตรฐานสูงสุดระดับ Tier 4 รองรับกลุ่มผู้ใช้งานหรือองค์กรที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือระดับสูงสุด รวมทั้งผู้ให้บริการ Cloud Service ในลักษณะ Enterprise Cloud ที่ให้บริการทั้งในและต่างประเทศ

2) บริษัท ซีทีอาร์แอลเอส ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CtrlS Datacenters ผู้ให้บริการ Data Center ระดับ Hyperscale อันดับ 1 ของอินเดีย ลงทุนในโครงการ Data Center มูลค่า 5,044 ล้านบาท ตั้งอยู่ในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) จังหวัดชลบุรี โดยจะให้บริการ Data Center ที่มีมาตรฐานสูงสุดระดับ Tier 4 รองรับการจัดส่งข้อมูลความเร็วสูงและอัตราการตอบสนองที่รวดเร็ว (Low Latency) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มธุรกิจที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC

3) บริษัท ซิง ต๋า สตีล คอร์ด (ไทยแลนด์) จำกัด โครงการผลิตลวดเหล็กสำหรับอุตสาหกรรม เช่น Steel Cord, Bead Wire, Steel Wire เป็นต้น ใช้สำหรับเสริมความแข็งแกร่งให้กับยางล้อรถยนต์และรถบรรทุกประเภท Radial Tire มูลค่าลงทุน 6,661 ล้านบาท ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดชลบุรี

4) บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) โครงการผลิตไอน้ำ มูลค่าลงทุน 4,238 ล้านบาท ในจังหวัดสระบุรี โครงการนี้จะผลิตไอน้ำโดยใช้เชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ส่งจ่ายให้กับโรงผลิตไฟฟ้าและโรงผลิตปูนซีเมนต์

“บีโอไอมองว่า ปี 2567 จะเป็นปีทองสำหรับการลงทุน ซึ่งจะมีโครงการขนาดใหญ่ตัดสินใจเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล อุตสาหกรรมชีวภาพและพลังงานหมุนเวียน สำหรับยานยนต์ นอกจากจะดึงการลงทุนจากผู้ผลิต EV รายใหม่ ๆ รวมทั้งการผลิตแบตเตอรี่และชิ้นส่วนสำคัญแล้ว ยังคาดว่าจะมีการขยายการลงทุนของผู้ประกอบการรถยนต์รายเดิมที่จะมาขอรับส่งเสริมตามมาตรการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ออกมาใหม่ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มุ่งสู่ความสะอาด ประหยัดพลังงาน ปลอดภัย และการขับเคลื่อนอัจฉริยะด้วย” นายนฤตม์ กล่าว