คูโบต้าขยายฐานผลิตเครื่องยนต์ในไทย ป้อนตลาดโลก

อัปเดตล่าสุด 9 ก.ย. 2567

คูโบต้าประกาศแผนการเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลอุตสาหกรรมในประเทศไทย จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 120,000 เครื่องต่อปี เป็น 160,000 เครื่องต่อปี โดยขณะนี้บริษัทกำลังเพิ่มสายการประกอบและการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ในโรงงานที่มีอยู่เดิม ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้เต็มรูปแบบภายในปี 2569

ญี่ปุ่น 4 กันยายน 2567 คูโบต้าได้ประกาศลงทุนมูลค่าหลายพันล้านเยนในโครงการเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องยนต์ดีเซล 25-74 แรงม้า ที่ผลิตในประเทศไทย สำหรับใช้ในเครื่องจักรกลการเกษตรและเครื่องจักรก่อสร้างของบริษัท รวมถึงจำหน่ายให้กับลูกค้าภายนอกสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมหลากหลายรูปแบบ ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ

ซีเอ็นเอช ประเทศไทย ขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยด้วยนวัตกรรมและการศึกษา

Advertisement

การขยายกำลังการผลิตนี้จะดำเนินการโดยบริษัท Kubota Engine Thailand ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 โดยมีพื้นที่อาคารประมาณ 35,000 ตารางเมตร ขณะนี้บริษัทกำลังเพิ่มสายการประกอบและเครื่องจักรสำหรับการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ในพื้นที่ว่างของอาคารที่มีอยู่เดิม

โรงงานแห่งนี้จะผลิตเครื่องยนต์ที่มีขนาด 1.5-2.4 ลิตร ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของบริษัท สำหรับใช้ในรถแทรกเตอร์คูโบต้า รถขุดขนาดเล็ก และเครื่องจักรก่อสร้างอื่น ๆ รวมถึงจำหน่ายให้กับบริษัทอื่น

คูโบต้าได้จัดตั้งระบบการผลิตเครื่องยนต์รุ่นเดียวกับโรงงาน Tsukuba (จังหวัดอิบารากิ) โดยผู้บริหารของคูโบต้า Toshiyuki Taneda ได้กล่าวว่า “การที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อจากทั้งญี่ปุ่นและประเทศไทยนั้นเป็นการลดความเสี่ยงสำหรับลูกค้า และเรากำลังส่งเสริมการตั้งฐานการผลิตในหลาย ๆ แห่ง” ร่วมกับโรงงาน Tsukuba บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตสำรอง

ตามรายงานของสมาคมผู้ผลิตเครื่องยนต์ภาคพื้นดินแห่งญี่ปุ่น การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลอุตสาหกรรมในประเทศและต่างประเทศของผู้ผลิตญี่ปุ่น คาดว่าในปีงบประมาณ 2567 จะลดลงต่ำกว่า 2 ล้านเครื่องเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีการผลิตอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านถึง 2 ล้านเครื่อง

คูโบต้ามีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในโลกสำหรับเครื่องยนต์อุตสาหกรรมที่มีกำลังน้อยกว่า 100 แรงม้า โดยยอดขายให้ลูกค้าภายนอกคิดเป็นประมาณ 60% ของยอดขายทั้งหมด แม้ในแนวโน้มการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บริษัทก็ยังเชื่อว่าความต้องการเครื่องยนต์ดีเซลจะยังคงมีต่อไปอีกยาวนาน และจะพัฒนาเครื่องยนต์ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์, ไฮบริด, ไฮโดรเจน และอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง

ความต้องการเครื่องจักรอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักรกลการเกษตรและเครื่องจักรก่อสร้าง กำลังเติบโตโดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ซึ่งความต้องการเครื่องยนต์ที่เกี่ยวข้องก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย คูโบต้าได้ลงทุน 28 พันล้านเยนในโรงงาน Rinkai ในเมือง Sakai และ 18.6 พันล้านเยนในศูนย์ธุรกิจ Okajima ในเมืองโอซาก้า เพื่อเสริมสร้างการผลิตและการวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์โดยรวม