Honda ปรับแผนลดงบลงทุน EV ลง 3 ล้านล้านเยน หันรุกตลาดรถไฮบริดแทน

อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 2568

Honda ปรับกลยุทธ์ EV ลดงบลงทุนจาก 10 ล้านล้านเยน เหลือ 7 ล้านล้านเยน ภายในปี 2030 พร้อมเร่งยอดขายรถไฮบริดทั่วโลกแตะ 2.2 ล้านคัน

อาเซียน-ญี่ปุ่น จับมือสร้างอนาคตยานยนต์ยุคถัดไป กางแผนถึงปี 2035

Advertisement

โตเกียว, 21 พฤษภาคม 2025 — บริษัท Honda Motor ประกาศทบทวนกลยุทธ์ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยลดแผนการลงทุนเดิมจาก 10 ล้านล้านเยน เหลือ 7 ล้านล้านเยน ภายในปีงบประมาณ 2030 สะท้อนถึงแนวโน้มการชะลอตัวของตลาด EV ในอเมริกาเหนือและยุโรป พร้อมกับหันไปเร่งกลยุทธ์ฝั่งรถยนต์ไฮบริด (HV) ด้วยการตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก 1.2 ล้านคัน เป็น 2.2 ล้านคันในปีเดียวกัน

แม้ Honda จะยังคงเป้าหมายระยะยาวในการบรรลุ ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 โดยยึดตามแผนปีเป้าหมายเดิมที่วางไว้สำหรับปี 2035 และ 2040 แต่บริษัทคาดว่าจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่า ยอดขาย EV จะคิดเป็น 30% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2030

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มยานยนต์ขนาดเล็ก เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคล Honda เชื่อว่า รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในระยะยาว

ประธานบริษัท Toshihiro Mibe กล่าวว่า "มุมมองของเราที่ยึดว่า EV คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutral ยังคงเหมือนเดิม" โดยเน้นย้ำว่า Honda จะเดินหน้ากลยุทธ์ระยะกลางและระยะยาว ผ่านการวางรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง

หนึ่งในเหตุผลหลักของการปรับแผน คือการชะลอตัวของตลาด EV ทั่วโลก โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ เดิมที Honda ตั้งใจลงทุนร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างโรงงานประกอบรถ EV และผลิตแบตเตอรี่ภายใน โดยใช้งบประมาณ 1.5 ล้านล้านเยน เพื่อเริ่มดำเนินการในปี 2028 ล่าสุดมีการเลื่อนแผนดังกล่าวออกไปประมาณ 2 ปี ทำให้ Honda ตัดงบลงทุนในแผนนี้ลง 1 ล้านล้านเยน และลดอีก 2 ล้านล้านเยนจากการชะลอการพัฒนาโรงงาน EV อื่น ๆ ส่งผลให้ยอดรวมการลงทุนลดลง 3 ล้านล้านเยน

ขณะเดียวกัน Honda จะหันไปเน้นพัฒนา Software-Defined Vehicle (SDV) และรถไฮบริด โดยจะพัฒนา ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) สำหรับรถไฮบริดด้วยตัวเอง และเริ่มนำเสนอในญี่ปุ่นและอเมริกาเหนือราวปี 2027 ส่วนในประเทศจีน จะร่วมมือกับสตาร์ทอัพ Momenta พัฒนา ADAS รุ่นใหม่ และติดตั้งในรถยนต์ทุกรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในตลาดจีน

ในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดที่รถไฮบริดได้รับความนิยมสูง Honda จะพัฒนาระบบ HV สำหรับรถขนาดใหญ่ และเริ่มทำตลาดในช่วงปลายทศวรรษ 2020 พร้อมวางจำหน่ายรถไฮบริดครอบคลุมทุกรุ่นตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นใหญ่ รวมถึงมีแผนถ่ายทอดเทคโนโลยี HV ไปยังรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHV) ด้วย ภายในช่วงปี 2027–2030 บริษัทจะเปิดตัวรถไฮบริด 13 รุ่นทั่วโลก ที่ติดตั้งฟังก์ชัน SDV เช่น ADAS รุ่นถัดไป

การที่ Honda เลือกทบทวนแผน EV และเร่งพัฒนาระบบขับขี่อัจฉริยะสำหรับ HV แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ใหม่ในการใช้ช่วงเวลานี้เตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่ยุค EV อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต