หลังฝ่าวิกฤตหลายปี Huawei จีนกลับมาทำรายได้แตะจุดสูงสุดอีกครั้ง

อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 2568

Huawei กลับสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง! หลังจากเผชิญมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ มาหลายปี Huawei เดินหน้าฝ่าทุกอุปสรรค ด้วยความก้าวหน้าในเทคโนโลยีชิป ซอฟต์แวร์ และธุรกิจยานยนต์อัจฉริยะ ทำให้รายได้ในปี 2024 ทะลุ 860,000 ล้านหยวน ใกล้เคียงจุดสูงสุดในปี 2020

Advertisement

เซินเจิ้น จีน, 28 มีนาคม 2568 – รอยเตอร์เผย Huawei ของจีนเตรียมประกาศชัยชนะเหนือมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ในผลประกอบการประจำปีที่กำลังจะเปิดเผย โดยได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีชิป และธุรกิจเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะที่กำลังเติบโต ซึ่งช่วยให้บริษัทหลุดพ้นจาก "โหมดเอาตัวรอด"

บริษัทเตรียมยืนยันว่ามีรายได้ 860,000 ล้านหยวน (118,000 ล้านดอลลาร์) ในปีที่แล้ว ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในปี 2020 ที่ 891,000 ล้านหยวน ก่อนที่ชิปสำรองจะลดลงและข้อจำกัดของสหรัฐฯ ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจผู้บริโภคลดลงครึ่งหนึ่ง โดยประธานของบริษัทได้เปิดเผยรายได้ในปี 2024 ไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะรายงานกำไรทั้งปีด้วย ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Huawei รายงานว่ากำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนลดลง 13.7%

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารของ Huawei เคยกล่าวว่ามาตรการของวอชิงตันทำให้บริษัทต้องเข้าสู่ "โหมดเอาตัวรอด" และผลักดันให้มุ่งสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเป็นทางเลือกแทนเทคโนโลยีตะวันตก และการร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นของจีนรวมถึงบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Huawei ได้แสดงความมั่นใจมากขึ้น โดยผู้ก่อตั้ง เหริน เจิ้งเฟย เคยบอกกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเดือนพฤษภาคมว่าความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนชิปและระบบปฏิบัติการภายในประเทศของจีนได้ลดลง

แม้ Huawei ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยขับเคลื่อนรายได้ของบริษัท แต่ได้ระบุว่าธุรกิจผู้บริโภคกลับมาเติบโตอีกครั้ง ขณะที่ธุรกิจยานยนต์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2024 Huawei จะส่งมอบสมาร์ทโฟนกว่า 45 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 25% จากปีก่อนหน้า แม้ว่าผลตอบแทนจากการผลิตชิปยังคงเป็นข้อจำกัดอยู่

จากข้อจำกัดของสหรัฐฯ สู่โอกาสใหม่ในหลายอุตสาหกรรม

หลังถูกคว่ำบาตร Huawei ได้ขยายธุรกิจไปสู่การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 5G สำหรับเหมือง และการจัดหาระบบกักเก็บพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูล นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบปฏิบัติการของตนเอง HarmonyOS ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์มากกว่าพันล้านเครื่องใช้งาน รวมถึงระบบบริหารจัดการซอฟต์แวร์ภายในที่เรียกว่า MetaERP

เมื่อถูกตัดขาดจากเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ Huawei ได้พัฒนาชิปของตนเองที่สามารถแข่งขันกับชิป AI ระดับสูงของ Nvidia และยังกลายเป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญของเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง โดยร่วมมือกับบริษัทรถยนต์ของรัฐจีนในการเปลี่ยนให้บริษัทเหล่านี้กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่แข่งขันได้

Huawei ได้ร่วมมือกับ Seres ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Dongfeng Motor เพื่อจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Aito โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในปีที่ผ่านมา โดยรุ่น M7 และ M9 ที่ขายดีที่สุด มาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่ขั้นสูงของ Huawei และวางขายในโชว์รูมทั่วประเทศ นอกจากนี้ Huawei ยังมีความร่วมมือกับ Chery, BAIC, JAC Group และ SAIC Group ในโครงการลักษณะเดียวกัน

ในอนาคต บริษัทมีแผนจะผสาน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับบริการสื่อสารทางอุตสาหกรรม รวมถึงพัฒนาระบบซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์เชื่อมต่อ ตามรายงานของสื่อของรัฐ

Huawei ยังส่งสัญญาณว่าต้องการรุกตลาดสมาร์ทโฟนต่างประเทศมากขึ้น โดยได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนแบบพับได้ Mate X5 ในมาเลเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่มีสิทธิ์ใช้ Android แบบเต็มรูปแบบ ทำให้โอกาสกลับสู่ตลาดผู้บริโภคตะวันตกเป็นไปได้ยาก แต่ Huawei ยังคงขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลในภูมิภาค เช่น ตะวันออกกลาง