ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “โบอิ้ง” บริษัทผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ได้ระงับการผลิตเครื่องบินรุ่น “737 แม็กซ์” เป็นการชั่วคราวแล้ว หลังจากที่เคยประกาศเตรียมระงับการผลิตในเดือน ธ.ค. 2019 ที่ผ่านมา โดยโรงงานประกอบเครื่องบินของโบอิ้งในเมืองเรนตัน รัฐวอชิงตัน ได้เปิดเผยว่า โรงงานหยุดการประกอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวชั่วคราว โดยโบอิ้งไม่มีการพักงานหรือเลิกจ้างพนักงานแต่อย่างใด ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า การระงับการผลิตเครื่องบินดังกล่าวของโบอิ้ง จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐในไตรมาสแรกของปีนี้ด้วย

องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐหรือ FAA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือน ระบุว่า FAA ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และขณะนี้กำลังอยู่ขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อปรับปรุงเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ให้เป็นไปตามาตรฐานการรับรองสูงสุด อีกทั้ง FAA ยังทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบการทำงานของบริษัทโบอิ้งในการรักษาความปลอดภัยให้ได้ตามที่กำหนด พร้อมทั้งระบุปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดระหว่างการทดสอบให้บริษัททราบด้วย

อย่างไรก็ตาม FAA ยังไม่มีกำหนดเวลาว่ากระบวนการตรวจสอบจะเสร็จสิ้นเมื่อใด แต่โบอิ้งเปิดเผยว่าเครื่อง 737 แม็กซ์จะไม่ยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบินจนไปจนถึงกลางปีนี้ จากที่ก่อนหน้านี้โบอิ้งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติให้ขึ้นบินอีกครั้งภายในปี 2019

โบอิ้งระบุด้วยว่า การรับรองจะขึ้นอยู่กับ “ความพยายามอย่างต่อเนื่องของเราในการจัดการกับความเสี่ยง และการปรับปรุงเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการรับรอง นอกจากนี้ ยังจะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดยละเอียด ซึ่งหน่วยงานในการกำกับดูแลนำมาใช้อย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบการควบคุมการบินของ 737 แม็กซ์”

ทั้งนี้ เครื่องบินรุ่นดังกล่าวของโบอิ้งถูกระงับการขึ้นบินตั้งแต่เดือน มี.ค. 2019 หลังจากเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 346 ราย แต่แม้ว่าบริษัทจะไม่สามารถส่งมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวให้ลูกค้าได้ แต่โบอิ้งยังคงไม่ระงับการผลิต เพียงแต่ชะลอการผลิตลงเหลือเพียง 42 ลำต่อเดือน โดยปัจจุบันมีเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วกว่า 400 ลำในวอชิงตันและเท็กซัสที่รอส่งมอบให้ลูกค้า