สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า “ทาทา สตีล” บริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้าข้ามชาติรายใหญ่ของอินเดียและผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป ประกาศเตรียมปรับลดตำแหน่งงานในยุโรปลง 3,000 ตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งในโรงงานขอบริษัทในเนเธอร์แลนด์และอังกฤษ เพื่อรับมือภาวะเหล็กล้นตลาดในยุโรปและเพิ่มผลกำไร
 
โดยทาทา สตีลระบุว่า การปรับตัวครั้งนี้ต้องการมุ่งเน้นไปที่การผลิตเหล็กที่มีมูลค่าสูงกว่า และการประหยัดต้นทุนในการหาวัตถุดิบ แต่ยังคงยืนยันว่าจะยังไม่มีการปิดโรงงาน โดยการปรับลดตำแหน่งงานจะขึ้นอยู่กับที่ตั้งของสำนักงาน

การประกาศแผนดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่แผนควบรวมกิจการระหว่างทาทา สตีลกับ “ธิสเซ่นครุปป์” (Thyssenkrupp) บริษัทสัญชาติเยอรมันถูกปฏิเสธโดยคณะกรรมาธิการยุโรป เนื่องจากกังวลว่า การควบรวมกิจการของสองบริษัทยักษ์ใหญ่จะทำให้การแข่งขันในตลาดลดลง และส่งผลให้ราคาเหล็กกล้าพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง ผู้บริหารของทั้งสองบริษัทคาดหวังว่า การควบรวมจะช่วยลดต้นทุนได้

เมื่อไม่สามารถควบรวมกิจการได้สำเร็จได้ ทำให้ทาทา สตีลจำเป็นต้องปรับลดจำนวนพนักงานในยุโรป โดยคาดว่า จะช่วยลดต้นทุนลงได้ถึง 194 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามรายงานของสำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์ ท่ามสภาวะเหล็กล้นตลาดจากความต้องการที่ลดน้อยลง เนื่องจากการชะลอตัวของภาคการผลิตรถยนต์ รวมถึงมาตรการจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของสหภาพยุโรป

เฮนริก อดัม (Henrik Adam) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทาทา สตีลยุโรป ระบุว่า “วันนี้ เรากำลังเน้นย้ำข้อเสนอที่สำคัญในการสร้างธุรกิจความแข็งแกร่งทางการเงินและธุรกิจที่ยั่งยืนในยุโรป เราวางแผนที่เปลี่ยนวิธีที่เราทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความร่วมมือที่ดีและการตัดสินใจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีความยั่งยืนและยังมีผลประกอบการที่ดี เมื่อต้องเผชิญกับสภาวะเหล็กล้นตลาดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังทำให้เราสามารถก้าวไปสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้ในอนาคต”

ทั้งนี้ ทาทา สตีลมีพนักงานราว 20,000 คนในยุโรป โดยส่วนใหญ่อยู่ในเนเธอร์แลนด์ ขณะที่โรงงานทาทา สตีลที่พอร์ตทัลบอต ทางตอนใต้ของอังกฤษมีคนงานมากถึง 8,385 คน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการปรับลดจำนวนพนักงานครั้งนี้