เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 รัฐบาลรัฐทมิฬนาฑูได้ประกาศเปิดตัวนโยบาย Electric Vehicles (EV) ประจําปี ค.ศ. 2019 โดยมุ่งหวังที่จะผลักดันอุตสาหกรรมการผลิตรถ EV ซึ่งรวมไปถึงการสร้างงานเพิ่มมากกว่า 150,000 ตําแหน่งและสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปหันมาใช้รถยนต์ EV เพิ่มขึ้น โดยภาครัฐมีบทบาททั้งในฐานะที่เป็นผู้ส่งเสริม (enabler) การลงทุนของภาคเอกชน และในฐานะผู้ลงทุน (investor) ในรูปแบบ PPP
 
นโยบายดังกล่าวกําหนดให้ (1) ผู้ผลิตรถ EV อุปกรณ์และส่วนประกอบ รวมทั้งอุปกรณ์การชาร์จไฟ สามารถขอคืนภาษี GST ของรัฐ (SGST) ได้จนถึงสิ้นปี 2573 หากบริษัทผู้ผลิตดังกล่าวมีการลงทุนมากกว่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างงานอย่างน้อย 50 ตําแหน่ง (2) กรณีที่ไม่สามารถขอคืนภาษี SGST ได้ รัฐจะให้เงินทุนอุดหนุน (capital subsidy) 15% สําหรับการลงทุนที่เกิดขึ้นในรัฐจนถึงสิ้นปี 2568 (3) มีการยกเว้นอากรแสตมป์ 100% สําหรับ การซื้อหรือเช่าที่ดินจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 (3) มีการยกเว้นภาษีถนน 100% สําหรับรถยนต์ EV จากวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 31 ธันวาคม 2565 (4) การยกเว้นค่าจดทะเบียนรถยนต์ EV สําหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถสาธารณะ อาทิ Autos/Taxis และ Ride Sharing Services (Uber/Ola) (5) เงินอุดหนุนบริษัทผู้ผลิตแบตเตอร์รี่ EV 20% ของมูลค่า การลงทุนเป็นเวลา 20 ปี และยกเว้นภาษีไฟฟ้า 100% แก่บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การชาร์จและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
 
ในส่วนของรถเมล์สาธารณะ รัฐบาลรัฐทมิฬนาฑูได้ระบุให้มีการเปลี่ยนประเภทรถเมล์เป็นรถเมล์ EV จํานวน 5% ทุกปี โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้รถเมล์ EV ทุกคัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะสร้างสถานีชาร์จไฟทุกๆ ระยะ 25 กม. บนสองข้างทางของถนนหลวง และสร้างสถานีชาร์จไฟในพื้นที่สถานที่ราชการใน เมืองใหญ่ๆ ในรัฐทมิฬนาฑู (Chennai, Coimbatore, Trichy, Madurai, Salem, Tirunelveti) พร้อมกับจะสนับสนุน ภาคเอกชนในการสร้างสถานีชาร์จไฟโดยใช้พลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ โดยไม่คิดค่าเชื่อมโยง (connection cost)
 
สําหรับบริษัทผู้ผลิดรถยนต์ EV และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มาลงทุนและตั้งโรงงานผลิตในรัฐทมิฬนาฑู รัฐบาลจะลดค่าเช่าหรือค่าจัดซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของรัฐ 50% หากลงทุนในเมืองทางใต้ของรัฐ อาทิ Tirunelveti และ 15% หากลงทุนในเมืองอื่น โดยให้มีผลไปถึงปี 2565 นอกจากนี้ จะมีการสร้าง EV Park ในเขต อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์และในพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อดึงดูดการลงทุนด้าน EV

จะมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายอาคารและสิ่งก่อสร้างเพื่อให้ครอบคลุมเรื่องโครงสร้างพื้นที่ชาร์จไฟ สําหรับอาคารหรือชุมชนที่อยู่อาศัย เช่น อพาร์ทเมนท์ และกําหนดให้กันพื้นที่ 10% ของพื้นที่ที่จอดรถในอาคาร พาณิชย์ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนต์ อพาร์ทเมนท์ ไว้สําหรับรถไฟฟ้า โดยจะต้องมีการตั้งสถานนีชาร์จไฟใน พื้นที่ดังกล่าวด้วย
 
ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเห็นว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้รัฐทมิฬนาฑูกลายเป็นผู้นํา/ฐานการผลิตรถ EV ที่สําคัญของอินเดีย โดยปัจจุบันรัฐทมิฬนาฑู ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดีทรอยท์แห่งอินเดีย” มียอด จําหน่ายรถ EV 6.4% ของจํานวนรถที่ขายทั่วอินเดีย
 

อ่านบทความ และรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่  : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ www.globthailand.com