โรลส์-รอยซ์ ฉลองครบรอบ 25 ปีเครื่องยนต์เทรนท์ และแผนสำหรับอนาคต

อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 2563
  • Share :
  • 454 Reads   

เมื่อ 25 ปีที่แล้ว เครื่องยนต์เทรนท์ (Trent) จากโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) เครื่องแรกได้ถูกติดตั้งในเครื่องบินแอร์บัส A330 ลำแรก และได้ทำการบินเพื่อส่งมอบให้กับสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิกในฮ่องกง นับแต่นั้นมา เทรนท์ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวแห่งความสำเร็จด้านการบินระดับโลก ด้วยชั่วโมงบินรวม 145 ล้านชั่วโมง ขนส่งผู้โดยสาร 3.5 พันล้านคน มีผู้ใช้เครื่องยนต์เทรนท์ 132 รายทั่วโลก จนวันนี้ทุก ๆ 1 ใน 2 ลำของเครื่องบินลำตัวกว้างจะติดตั้งและบินด้วยเครื่องยนต์เทรนท์ และเมื่อปีที่แล้ว เครื่องบิน Aeroflot A330 ที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เทรนท์ 700 ได้ถูกบันทึกสถิติโลกที่ทำการบินได้ถึง 50,000 ชั่วโมงโดยไม่ต้องยกเครื่องหรือซ่อมแซมครั้งใหญ่ 

เครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์ทั้งเจ็ดรุ่นประกอบด้วยเทรนท์ 500, เทรนท์ 700, เทรนท์ 800, เทรนท์ 1000, เทรนท์ XWB และเทรนท์ 7000 โดยแต่ละรุ่นเป็นผู้นำตลาดสำหรับเครื่องบินที่ออกแบบมารองรับโดยเฉพาะ หรือเป็นเครื่องยนต์แรกที่ใช้กับเครื่องบินรุ่นนั้น ๆ หรือในบางกรณีก็เป็นทั้งสองอย่างที่กล่าวมา

เดือนกุมภาพันธ์ 2563 นี้เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของการส่งมอบเครื่องยนต์เทรนท์เครื่องแรก เมื่อสิบปีที่แล้วมีเครื่องยนต์เทรนท์ 1,500 เครื่องให้บริการ และตัวเลขในวันนี้ก็มากกว่า 4,000 เครื่องแล้ว และในเวลาอีกสิบปีจะเพิ่มจำนวนไปอยู่ที่ประมาณ 7,500 เครื่อง เครื่องยนต์เทรนท์ผลิตในสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และเยอรมนี 

คริส โชเลอร์ตัน ประธาน ฝ่ายการบินพาณิชย์ของโรลส์-รอยซ์ กล่าวแสดงความขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรทุกรายที่ให้ความมั่นใจและวางใจในเครื่องยนต์เทรนท์มาโดยตลอด เพื่อสนับสนุนเครือข่ายการบินทั่วโลก ซึ่งเครือข่ายนี้เองเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารมากมายได้รับประสบการณ์การเดินทาง

“เครื่องยนต์เทรนท์ถูกสร้างขึ้นด้วยความมานะ บากบั่น ไม่ย่อท้อในการเป็นผู้บุกเบิก – เพื่อทำให้เครื่องยนต์ของเรามีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้เราค้นพบวิธีการใหม่ ๆ ในการทำการบินที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และจิตวิญญาณนั้นจะยังคงปรากฎอยู่ในโครงการรุ่นต่อ ๆ ไปของเรา เช่น เครื่องยนต์สาธิต UltraFan® และโปรเจกต์ด้านการพัฒนาระบบไฟฟ้าของเรา”

มีการสั่งซื้อเครื่องยนต์เทรนท์อีกหลายพันเครื่องในช่วงทศวรรษที่กำลังจะมาถึงและโรลส์-รอยซ์พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต 

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ความต้องการด้านการบริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามจำนวนฝูงบินที่เพิ่มขึ้น โรลส์-รอยซ์จึงตอบสนองความต้องการนี้ด้วยการขยายเครือข่ายบริการไปทั่วโลก

ในขณะเดียวกัน โรลส์-รอยซ์ได้จัดตั้งเครือข่ายศูนย์บริการลูกค้า (Customer Service Centres -CSCs) ซึ่งพัฒนามาเพื่อให้บริษัทมีความใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น แบ่งปันประสบการณ์การทำงานกับลูกค้าของเรา และเข้าใจถึงความต้องการด้านการบริการของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น ศูนย์ CSCs ได้จัดตั้งขึ้นในทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง ทวีปอเมริกา ยุโรปและจีน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการตอบสนองความต้องการของลูกค้า

บริษัทยังมีการลงทุนในเรื่องเทสต์เบดหรือสถานที่ทดสอบใหม่เพื่อปรับปรุงปริมาณงานและคุณภาพของเครื่องยนต์ โดยสร้าง Testbed 80 ที่เมืองดาร์บี้ สหราชอาณาจักร ให้เป็นเทสต์เบดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเนื้อที่กว้างขวางถึง 7,500 ตารางเมตร และจะเริ่มใช้กับเครื่องยนต์เทรนท์ในปีนี้

ภายในปี 2564 เทสต์เบดแห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญต่อโลกการบินยิ่งกว่าเรื่องเครื่องยนต์เทรนท์ ตามแผนงานที่โรลส์-รอยซ์ได้กำหนดไว้แล้วจะมีการทดสอบเครื่องยนต์สาธิต UltraFan ณ ที่นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาที่จะส่งผลให้ต่อการบริการในช่วงปลายทศวรรษนี้ โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงลงถึงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เทรนท์รุ่นแรก ๆ