สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข่าวในวันนี้ (10 มี.ค. 2020) อ้างอิงทีมนักวิจัยซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ซึ่งระบุว่าทีมวิจัยดังกล่าวกำลังศึกษาวิธีการสกัดแร่ลิเธียมแบบใหม่ที่ร่นระยะเวลาในการสกัดแร่ดังกล่าวเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ทั้งนี้ วิธีการสกัดแร่ลิเธียมแบบใหม่นี้ถูกพัฒนาโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยโมนาช, มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น, มหาวิทยาลัยเท๊กซัส ออสติน และสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติออสเตรเลีย โดยวีธีการแบบใหม่นี้ลอกเลียนแบบความสามารถในการกรองสารต่าง ๆ ของเซลล์สิ่งมีชีวิต

รายงานทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่าวิธีการใหม่นี้จะสามารถสกัดแร่ลิเธียมที่อยู่ในน้ำเค็มได้ถึง 90% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับวิธีการแบบเก่าด้วยการสูบน้ำเค็มมาไว้ในบ่อระเหยซึ่งสามารถสกัดลิเธียมออกมาได้เพียงแค่ 30% เท่านั้น อีกทั้งยังต้องใช้เวลาที่ยาวนานถึง 18 เดือน โดยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโมนาช ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า หากสามารถพัฒนาวิธีการสกัดแร่ลิเธียมแบบใหม่จนสำเร็จจะช่วยร่นระยะเวลาการสกัดเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ในส่วนของแร่ลิเธียมเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยปัจจุบันสามารถสกัดได้จากแร่สปอดูมีนซึ่งพบได้ในเหมืองหินที่ประเทศออสเตรเลีย และการสกัดจากน้ำเค็มตามบ่อระเหยในประเทศแถบอเมริกาใต้ เช่น อาร์เจนติน่า ชิลี และโบลิเวียร์ เป็นต้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้นอกจากจะใช้เวลานานแล้วยังใช้ทรัพยากรจำนวนมาก

อ่านเพิ่มเติม:

• แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
• รางวัลโนเบล! กว่าจะมาเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
• แบตฯ 'ลิเธียมไอออน' โอกาสประเทศไทย