สำหรับงานซับคอนไทยแลนด์ 2019 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 13 นี้ยังคงมุ่งเน้นแสดงอุตสาหกรรมรับช่วงต่อการผลิต และการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการรายใหญ่หรือผู้ซื้อ เพื่อแสดงศักรยภาพการผลิตของผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย การเป็นศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และสร้างโอกาสการต่อยอดธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับบริษัทผู้ซื้อจากทั่วโลก รวมทั้งสร้างองค์วามรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกับภาคการผลิต

ปี 2019 นี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เข้มแข็งแล้ว ยังได้ขยายไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายอีก 4 กลุ่ม ได้แก่

อุตสาหกรรมอากาศยาน

คุณสมควร จันทร์แดง DIRECTOR OF AVIATION AND LOGISTICS CLUSTER สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอุตสาหกรรม M Report ว่า ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สามารถพัฒนาเพื่อก้าวไปผลิตชิ้นส่วนอากาศยานได้ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพราะเราตั้งใจที่เป็น HUB ศูนย์กลางแห่งการบิน เพื่อรองรับการขยายตัวทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน 

แต่เดิมทีเดียวนั้นอุตสาหกรรมการบินเป็นอุตสาหกรรมเฉพาะ ซึ่งต้องอาศัยหลายปัจจัยในการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรรมนี้ ทั้งเรื่องของมาตราฐาน ความแม่นยำ ความเที่ยงตรง ระเบียบข้อบังคับในการควบคุมคุณภาพ ซึ่งแน่นอนว่าในกลุ่มสมาชิกไทยซับคอนเราเองนั้นมีศักยภาพมากพอ แต่ต้องมีความมุ่งมั่นมากพอเช่นกัน ที่จะ Transform และหากผ่านความท้าทายนี้ไปได้ ก็จะพบการความต้องการของตลาดที่สูง ทั้งยังมีมูลค่ามาก ในส่วนของความเข้มข้นในการแข่งขันเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ อุตสาหกรรมนี้ยังมีช่องว่างและพื้นที่ให้ผู้เล่นรายใหม่ ซึ่งสมาคมไทยซับคอน มุ่งเน้นผลักดันอุตสาหกรรมนี้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการรวมกลุ่มเพื่อติดต่อกับกลุ่มผู้ลงทุน อำนวยการในส่วนของนโยบายภาครัฐ รวมไปถึงการเพิ่มศักยภาพโดยการเยี่ยมชมงาน และเชื่อมโยงเพื่อนำเสนอขีดความสามารถของกลุ่มสมาชิกฯ เพราะแน่นอนว่า หนึ่งในปัจจัยที่นักลงทุนใช้พิจารณาคือ การมีอุตสาหกรรมสนับสนุนหรืออุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตที่มีศักยภาพ

อุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์

คุณบุญเลิศ ชดช้อย DIRECTOR OF MEDICAL CLUSTER สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย ได้อธิบายให้เราเห็นมุมมองที่สมาคมฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ว่า เนื่องด้วยกลุ่มสมาชิกของเรามีศักยภาพเพียงพอโดยไม่ต้องเกิดการลงทุนใหม่ อีกทั้งตลาดนี้สามารถเติบโตได้อย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่ไทยซับคอนเห็นและมุ่งมั่นที่จะพาสมาชิกสู่การ Transform ในครั้งนี้  ซึ่งไทยซับคอนเองก็มีการสนับสนุนสมาชิกโดยการจัดอบรมให้ผู้ผลิตเข้าถึงมาตรฐานเครื่องมือแพทย์เกี่ยวกับมาตรฐาน ISO 13485 จัดอบรมในหัวข้อเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ โดยมีการเรียนเชิญวิทยากรทั้งภาคส่วนอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงองค์การอาหารและยามาให้ความรู้แก่สมาชิก อีกทั้งยังนำพาสมาชิกที่มีความมุ่งมั่นในอุตสาหกรรมนี้ เปิดตัวเพื่อให้ตลาดได้รับรู้ว่าอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย นอกจากนี้เรายังร่วมศึกษาดูงานทั้งจากโรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ว่ามีปัญหาอุปสรรคอย่างไร เพื่อจะนำกลับมาปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับความต้องการอย่างแท้จริง

อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ-หุ่นยนต์

คุณวรากร กติกาวงศ์ DIRECTOR OF ROBOTIC AND AUTOMATION CLUSTER สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย ได้กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ว่า หลักๆ แล้วในส่วนของระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เราจะนำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นทางฝั่งญี่ปุ่นและยุโรป ในส่วนของประเทศไทยเราเองนั่นก็เริ่มมีการผลิตระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เพื่อใช้ในประเทศเองบ้างแล้ว แต่ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร เนื่องจากอุตสาหกรรมโรบอทต้องอาศัยความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งไทยซับคอนเองพยายามผลักดันสมาชิกในส่วนต่างๆ เพื่อให้ผู้ซื้อได้เห็นศักยภาพ ทั้งในเรื่องของการออกบูธ , Event ให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาศเห็นความสามารถและเชื่อมั่นในการผลิตในภาคส่วนอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติ-หุ่นยนต์ Made in Thailand มากขึ้น  

ส่วนความคึกคักในอุตสาหกรรมนี้ เทไปในส่วนของ SI  (system integrator) ที่มีการขยายตัวค่อนข้างมาก ซึ่ง SI ถือเป็นหัวใจหลักของระบบอัตโนมัติและโรบอทอยู่แล้ว คุณวรากรยังเผยด้วยว่า ต้นทุนคือปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ นั้นหมายความว่าหากผู้ผลิตในกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ สามารถควบคุมราคาได้ดี ก็จะทำให้ผู้บริโภคเกิดการมองเห็นจุดคุ้มทุนที่ชัดเจน คือต้องคืนทุนในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการมีจุดคุ้มทุนที่ต่ำที่สุด ส่วนเรื่องแนวโน้มนวัตกรรมระบบอันโนมัติ-หุ่นยนต์ในอนาคต เป็นเรื่องของความสามารถในการรับรู้ข้อมูลในการผลิตแบบ Real Time

อุตสาหกรรมศูนย์ซ่อมบำรุง ยานยนต์สมัยใหม่

ที่ผ่านมา ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตยานยนต์ของโลก แต่ด้วยการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้ในอุตสาหกรรมเกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลได้กำหนดให้อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยอุตสาหกรรมนี้จะมุ่งเน้นไปที่ยานยนต์ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสร้างเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนสมัยใหม่ 

และในปีนี้ ทางไทยซับคอน ได้เล็งเห็นประโยชน์ที่จะสามารถขยายศักยภาพให้กลุ่มสมาชิกได้ จึงมีการเปิดตัวคลัสเตอร์ใหญ่ 2 คลัสเตอร์ด้วยกัน คือ 

คลัสเตอร์อุตสาหกรรมระบบราง

คุณวีระชัย ตรีพรเจริญ DIRECTOR OF TSC RAIL SYSTEMS CLUSTER สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย บอกถึงความมุ่งมั่นที่จะพากลุ่มสมาชิกสมาคมฯ ไปสูอุตสาหกรรมระบบรางว่า เรามีความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนรถได้ เรือได้ เครื่องบินได้ ทำไมรถไฟเราจะไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ อีกโอกาสคือ BOI ก็มีการสนับสนุนระบบรางในเรื่องต่างๆ รวมทั้งการลดหย่อนภาษี ซึ่งแน่นอนเหล่านี้เป็นโอกาส ในแง่มุมของอุปสรรค์เราก็ไม่ปฏิเสธว่าไม่มี เพราะมาตรฐานต่างๆ ของอุตสาหกรรมนี้ก็ค่อนข้างสูง แต่มั่นใจว่าหากได้รับโอกาสในการผลิต สมาชิกในกลุ่มสมาคมฯ จะสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างแน่นอน ในส่วนไทยซับคอนก็มีการจัดสัมมนาให้ความรู้ในหัวข้อเดินหน้าอุตหกรรมระบบราง 

คลัสเตอร์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

คุณธงชัย อุพันวัน DIRECTOR OF DEFENCE INDUSTRY CLUSTER สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย เล่าถึงอุตสาหกรรม S-Curve ที่ 11 ที่รัฐบาลเพิ่งตั้งขึ้นว่า มาพร้อมกับความคาดหวังว่าจะสามารถผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาส่วนใหญ่เราจะนำเข้ามาจากต่างประเทศถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และมีราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นที่มาและแนวคิดของอุตสาหกรรมนี้ 

เป้าหมายหลักของการผลิตในกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ เรามุ่งไปที่ 3 ส่วนคือ 1. รัฐบาล (ผู้ใช้โดยตรง) 2. กลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์-เครื่องมือต่างๆ ในระบบป้องกันประเทศ 3. ตลาดต่างประเทศ ซึ่งแนวโน้มของอุตสาหกรรมนี้มีโอกาสและช่องทางค่อนสูง แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาเพราะมีตัวแปลค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องขอข้อกฎหมาย และความสดใหม่ในอุตสาหกรรมนี้

และภายในงาน ในโซนของสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิต ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถมาเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก ได้ที่งาน อินเตอร์แมค-ซับคอนไทยแลนด์ 2019 ได้ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา ในวันที่ 8-11 พฤษภาคมนี้