บอร์ดอีวีไฟเขียวปรับมาตรการ EV3–EV3.5 หนุนไทยฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภูมิภาค – BEV 9 เดือนโต 59%
บอร์ดอีวีชุดใหม่ไฟเขียวปรับปรุงมาตรการ EV3 และ EV3.5 เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ผลิต ป้องกันปัญหา Oversupply และผลักดันไทยสู่ฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า BEV 9 เดือนแรกปี 2568 เติบโต 59% สะท้อนความต้องการตลาดที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง
25 พฤศจิกายน 2568 — นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ที่ประชุมบอร์ดอีวีชุดใหม่ ซึ่งมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้เห็นชอบการปรับปรุงมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ทั้ง EV3 และ EV3.5 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดของโลกและของประเทศไทย โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ปรับปรุงมาตรการเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ 2) ปรับปรุงมาตรการเพื่อลดหรือป้องกันปัญหาการผลิตล้นตลาดในประเทศ (Oversupply)
สำหรับการปรับปรุงมาตรการเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการส่งเสริมอุตสาหกรรม EV ประกอบด้วย
- ขยายเวลาการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ ภายใต้มาตรการ EV3 และ EV3.5 จากเดิมที่จะต้องจดทะเบียนให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2568 และ 2570 ตามลำดับ ขยายเวลาเป็นภายในเดือนมกราคมของปีถัดไป เพื่อช่วยให้ยานยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในช่วงปลายปี สามารถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกให้ทันภายในกำหนด
- กำหนดเงื่อนไขในการจ่ายเงินอุดหนุนเพิ่มเติม โดยหากผู้ประกอบการผลิตได้ล่าช้ากว่าแผน กรมสรรพสามิตจะชะลอการจ่ายเงินอุดหนุนจนกว่าจะดำเนินการได้ตามแผน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการที่ผู้ประกอบการไม่สามารถผลิตชดเชยได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
- ปรับปรุงเงื่อนไขการขยายเวลาผลิตชดเชยภายใต้มาตรการ EV3 ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของภาคธุรกิจ โดยอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมมาตรการ EV3 สามารถเพิ่มรายชื่อโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นคู่สัญญาในมาตรการ EV3.5 เข้ามาในสัญญา EV3 ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการผลิตชดเชยตามกรอบเวลาที่กำหนด
- ขยายเวลาการผ่อนผันการนับมูลค่าวัตถุดิบที่ได้ถิ่นกำเนิดในประเทศไทยสำหรับเซลล์แบตเตอรี่จากต่างประเทศ จากเดิมสิ้นสุดปี 2568 ออกไปอีก 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2569 โดยในช่วงที่ขยายเวลา ให้ปรับลดสัดส่วนมูลค่าของเซลล์แบตเตอรี่จากต่างประเทศเป็นวัตถุดิบที่ผลิตในประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 10 จากเดิมที่ให้นับได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของราคายานยนต์ไฟฟ้าหน้าโรงงาน เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของเขตปลอดอากร (Free Zone) หรือเขตประกอบการเสรี โดยผู้ขอรับการผ่อนผันต้องเสนอแผนการจัดหาชิ้นส่วนในประเทศที่ชัดเจน และจะถูกระงับการจ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการ EV3 และ EV3.5 ในระหว่างที่ได้รับการผ่อนผัน
- กำหนดวิธีปฏิบัติและแนวทางดำเนินการสำหรับมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ HEV 3 ด้านได้แก่
- ด้านการปล่อย CO₂ ผู้ผลิตต้องผ่านการทดสอบและรับรองค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตามเกณฑ์ที่กำหนด พร้อมแสดงข้อมูลผ่านระบบ ECO Sticker
- ด้านการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตหรือประกอบในประเทศ ต้องมีการใช้ชิ้นส่วน HEV ที่มีมูลค่าสูงหรือปานกลางที่ผลิตในประเทศ ตามเงื่อนไขที่กำหนด และมีการใช้แบตเตอรี่ที่มีการผลิตอย่างน้อยในระดับ Pack Assembly ในประเทศ มีโรงงานที่มีสาระสำคัญของการผลิตและรักษากำลังผลิตของเครื่องจักร มีโรงงานประกอบเครื่องยนต์ที่ผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญในประเทศ 4 ใน 5 ชิ้น หรือมีสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศร้อยละ 40 ตามวิธีคำนวณและเงื่อนไขของกระทรวงอุตสาหกรรม มีการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา หรือมีการจ้างแรงงานไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของคนทำงานในสำนักงาน
- ด้านความปลอดภัยและระบบ ADAS ผู้ผลิตต้องนำรถเข้าทดสอบการทำงานของระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) ที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ครอบคลุมการทดสอบทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ Car-to-Car Rear Stationary, Lane Keeping, ระบบเตือนการออกนอกช่องจราจร (LDW) และระบบตรวจจับจุดบอด (BSD)
ในส่วนของการปรับปรุงมาตรการเพื่อลดหรือป้องกันปัญหาการผลิตล้นตลาดในประเทศ (Oversupply) มีดังนี้
- ปรับปรุงเงื่อนไขการนับจำนวนการผลิตชดเชย โดยในส่วนของการผลิตชดเชยเพื่อส่งออก ให้นับการส่งออก 1 คัน เป็นการผลิตชดเชย 1.5 คัน เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการส่งออกเพิ่มเติม และป้องกันปัญหาการผลิตล้นตลาดในประเทศ (Oversupply) ซึ่งจะกระทบต่อตลาดรถยนต์โดยรวม รวมถึงขยายเวลาให้ส่งออกและส่งหลักฐานการส่งออกได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายนปีถัดไป
- เพิ่มทางเลือกในการออกจากมาตรการ EV3 และ EV3.5 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาจำหน่ายแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุน ให้สามารถจ่ายส่วนต่างภาษีสรรพสามิตที่ได้รับการลดหย่อนคืน พร้อมเบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม เพื่อลดยอดที่ต้องนำไปคำนวณการผลิตชดเชย
ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตสวนกระแส
นอกจากนี้ บอร์ดอีวี ได้รับทราบรายงานผลการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยในช่วง 9 เดือน ปี 2568 (มกราคม – กันยายน) มียอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ BEV ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมากถึงร้อยละ 59 จำนวน 87,112 คัน และมียอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าตามที่ได้รับสิทธิตามมาตรการ EV3 และ EV3.5 สะสมรวม 238,183 คัน โดยมีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ EV3 รวม 32 บริษัท และมาตรการ EV3.5 รวม 11 บริษัท
ณ เดือนตุลาคม 2568 บีโอไอส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรม
ที่เกี่ยวข้องไปทั้งสิ้น 1.4 แสนล้านบาท ครอบคลุมทั้งการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่และชิ้นส่วนสำคัญ สถานีชาร์จไฟฟ้า และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ อาทิ กิจการผลิตรถยนต์ BEV 21 โครงการ เงินลงทุนรวม 40,449 ล้านบาท กิจการผลิตแบตเตอรี่ 54 โครงการ เงินลงทุนรวม 79,473 ล้านบาท กิจการผลิตชิ้นส่วนสำคัญอื่น ๆ เช่น Traction Motor, BMS DCU, Inverter, On-board Charger 45 โครงการ เงินลงทุนรวม 10,002 ล้านบาท กิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery swapping) 32 โครงการ เงินลงทุนรวม 6,066 ล้านบาท
“วันนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ถือเป็น New Growth Engine ของเศรษฐกิจไทย จากยอดการใช้ EV ของโลกที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่ม HEV, PHEV และ BEV เป็นเครื่องยืนยันว่ามาตรการของบอร์ดอีวี
ที่มุ่งสร้างประเทศไทยให้เป็นฐานสำคัญของการผลิตและส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคและของโลกเดินมาถูกทาง และกำลังสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ทั้งในแง่การลงทุน เทคโนโลยี และการผลิตจริงในประเทศ สำหรับการประชุมในวันนี้ บอร์ดอีวีได้ปรับปรุงเงื่อนไขของมาตรการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกและรักษาเสถียรภาพของตลาดภายในประเทศ นอกจากนี้ การเติบโตของ EV กำลังสร้างดีมานด์ใหม่ให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย และเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในห่วงโซ่อุปทานยานยนต์โลก” นายนฤตม์ กล่าว
#BOIThailand #EVThailand #ยานยนต์ไฟฟ้าไทย #GreenEVThailand #ElectricVehicleThailand #MReportTH #IndustryNews
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- ยอดขายรถยนต์ 2567
- 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2568
- คาร์บอนเครดิต คือ
- ยอดขายมอเตอร์ไซด์ 2567
- “ยานยนต์ไร้คนขับ” กับทิศทางการเติบโตในปี 2022-2045
- ยอดลงทุนปี 67 ทะลุ 1 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
- ยอดจดทะเบียนใหม่ยานยนต์ไฟฟ้า 2567
- สถิติส่งออกกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนไทยปี 2567
- เทคโนโลยีในงานโลจิสติกส์ มีอะไรบ้าง
- 5 เทคนิค “มือใหม่ใช้เครื่อง CNC”
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / X / YouTube @MreportTH
