วศ. เดินหน้าศูนย์ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (T-CAV), กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

วศ. เดินหน้าศูนย์ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (T-CAV)

อัปเดตล่าสุด 15 ก.พ. 2567
  • Share :
  • 2,159 Reads   

อว. ย้ำ วศ. เดินหน้าศูนย์ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (T-CAV) ยกระดับความปลอดภัยยานยนต์ไทย ปูทางสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่เข้มแข็ง

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กระทรวง อว. ให้ความสำคัญกับการพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้เป็นพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจ เป็นที่พึ่งของประชาชน และแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ ของประเทศ โดยล่าสุดมอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) เร่งเดินหน้าผลักดันโครงการสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (T-CAV) ณ EECi วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง เพื่อพร้อมให้บริการอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล หวังดึงดูดการลงทุนของบริษัทชั้นนำระดับโลกทางด้าน Future mobility และเป็นตัวเร่งให้เกิดระบบนิเวศน์ของบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวง อว. เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (พ.ศ. 2565 – 2568) ครอบคลุมการก่อสร้างสนามทดสอบ CAV สำหรับใช้ทดสอบระบบนำทางของรถอัตโนมัติ จำลองลักษณะของถนนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนในเขตเมือง สัญญาณจราจร ป้ายจราจร อุปกรณ์เสริมความปลอดภัย เช่น รั้วกันชน พื้นที่อับสัญญาณ เช่น อุโมงค์หรือหลังคา พื้นที่รบกวนสัญญาณภาพ เช่น พื้นที่มีเงารบกวนจากต้นไม้ พร้อมทั้งทดสอบระบบขับเคลื่อนของยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV รวมไปถึงระบบสื่อสารและโทรคมนาคมแบบ WiFi, 4G LTE, 5G 2600MHz เพื่อตรวจสอบสมรรถนะการทำงานของโปรแกรมการนำทางและโปรแกรมเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ รวมทั้งทดสอบการเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างศูนย์ควบคุมกับรถอัตโนมัติหรือระหว่างรถอัตโนมัติให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยมาตรฐานของสนามได้รับการรับรองจาก IDIADA ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์ในการดำเนินงานทางด้านการทดสอบยานยนต์มากกว่า 25 ปี

ในปี 2566 วศ.อว. ได้ให้บริการทดสอบเพื่อยืนยันสมรรถนะระบบ Automatic Emergency Braking (AEB) ให้กับผู้ประกอบการ 3 ราย ได้แก่ BMW (Thailand) (BMW 530e) GPSC (Chery EQ5) และ Horizon Plus (MG ZS EV 2022) โดยบริษัท Horizon Plus จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Foxconn และ บริษัท ปตท. จำกัด มีเป้าหมายในการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ราคาประหยัดในประเทศไทยเพื่อใช้ในประเทศรวมทั้งเพื่อส่งออกไปยังประเทศ อื่นๆ เช่น อินเดีย โดยบริษัท Horizon Plus ได้ร่วมมือกับ วศ. ในการเตรียมขั้นตอนการทดสอบระบบ advance driver assistance system (ADAS) และระบบ autonomous driving (AD) โดยการผลิตดังกล่าวจะอยู่ที่โรงงานผลิตยานยนต์ของ Horizon Plus ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะนอกจากนี้ วศ.อว. ยังได้ทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ มุ่งเน้นที่

การทดสอบสมรรถนะและความปลอดภัยของระบบ assisted/automated driving (ระบบช่วยขับขี่และระบบ ขับขี่อัตโนมัติ level 3-4) จำนวน 4 นวัตกรรม ได้แก่ รถไฟฟ้าอัตโนมัติ (BYD e6) ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) รถกอล์ฟไฟฟ้าอัตโนมัติของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ระบบเก็บข้อมูลการเคลื่อนที่แบบใช้ GNSS แม่นยำสูง และหุ่นยนต์ส่งของระดับความอัตโนมัติ Level 4 ยี่ห้อ NEOLIX

ดังนั้น เมื่อโครงการนี้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ วศ.อว. มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่และหุ่นยนต์ของประเทศให้ได้มาตรฐานระดับสากล สามารถกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่ EEC และในประเทศโดยคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ถึง 200,000 ล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2573 โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของไทยให้สามารถสร้างนวัตกรรมที่ขายได้ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค มีผู้ประกอบการทางด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในไทยเพิ่มขึ้น และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์รถอัตโนมัติ ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เสริมความปลอดภัยในการขับขี่ (ADAS) ของไทยได้เอง

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH