รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ประกาศสานต่อนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หวังดึงยอดลงทุนช่วงครึ่งหลังปี 2562 ฟื้นตัว พร้อมส่งสัญญาณขยายการพัฒนาพื้นที่พิเศษไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมตามนโยบายรัฐบาล

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  ยืนยันจะเดินหน้าผลักดันโครงการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเตรียมลงพื้นที่ EEC เป็นพื้นที่แรกเพื่อศึกษาภาพรวมการลงทุน ขณะเดียวกันมีแนวคิดขยายพื้นที่พัฒนาพิเศษเพิ่มเติมจาก EEC 3 จังหวัด  (ชลบุรี, ระยอง และฉะเชิงเทรา) ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความเหลื่อมล้ำสูง ดังนั้นจะใช้ภาคอุตสาหกรรมเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยยกระดับรายได้ของประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ขอศึกษารายละเอียดและหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก่อนว่าจะใช้โมเดลในการพัฒนาลักษณะเดียวกับ EEC หรือไม่ และเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน   

“การลงทุนที่ชะลอตัวส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการเมืองไม่ชัดเจนและการจัดตั้งรัฐบาลมีความล่าช้า แต่เชื่อว่าหลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการแล้วจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งหลังของปี 62 ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่ EEC และขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยกระทรวงอุตสาหกรรมจึงต้องทำงานให้หนักและทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) อย่างใกล้ชิดมากขึ้น”

สำหรับเรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการคือ การส่งเสริม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ตามนโยบายรัฐบาล เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์, การบินและโลจิสติกส์, การแพทย์ครบวงจร, เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ, ดิจิทัล, การแปรรูปอาหาร, ยานยนต์แห่งอนาคต, อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมทั้งหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยเบื้องต้นเตรียมหารือกับกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหามาตรการช่วยเหลือด้านการเงิน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนและนวัตกรรม รวมถึงเชื่อมโยงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกับภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ใน EEC โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนการผลิตในประเทศให้มากขึ้น

นอกจากนี้ นายสุริยะ ยังระบุว่าจะให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนการกำจัดกากอุตสาหกรรมหรือขยะพิษต่างๆ อย่างถูกต้องเป็นระบบ เพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบทิ้งขยะพิษในจังหวัดสระแก้ว

สนับสนุนบทความโดย :  สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)    www.eeco.or.th