กยศ. หั่นดอกเบี้ยกู้-ลดเงินต้น หนุนเรียน “อาชีวะ-ป.ตรี” สาขาที่รองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 2562
  • Share :
  • 551 Reads   

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า “กองทุน ได้ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เพื่อจัดทำ “โครงการส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital) เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3 โครงสร้างพื้นฐาน ผ่านกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา” โดยจะดำเนินการระหว่างปีการศึกษา 2562 – 2566 (5 ปีการศึกษา) สำหรับนักศึกษาผู้กู้ยืมเงินในระดับปริญญาตรี เมื่อสำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาที่กำหนดจะคิดดอกเบี้ยอัตราไม่เกินร้อยละ 0.5 ต่อปี และได้ส่วนลดเงินต้นร้อยละ 30 สำหรับนักเรียน/นักศึกษาผู้กู้ยืมเงินในระดับอาชีวศึกษา เมื่อสำเร็จการศึกษา ในสาขาวิชาที่กำหนดจะคิดดอกเบี้ยอัตราไม่เกินร้อยละ 0.5 ต่อปี และได้ส่วนลดเงินต้นร้อยละ 50 แต่หากผู้กู้ยืมเงินไม่สามารถสำเร็จการศึกษาหรือไม่ได้สำเร็จการศึกษา ตามสาขาวิชาที่กำหนดไว้หรือผิดนัดชำระหนี้ จะไม่ได้รับการคิดดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดและไม่ได้รับส่วนลดเงินต้น โดยจะต้องชำระหนี้ตามระเบียบของกองทุน ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเพิ่มกำลังแรงงานในอนาคตที่สามารถตอบสนองความต้องการให้ภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจให้ตรงกับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศตามแนวนโยบายประเทศไทย 4.0

ทั้งนี้ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ประกอบด้วย

1) อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต

2) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ

3) อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

4) การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ

5) อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร

6) อุตสาหกรรมหุ่นยนต์

7) อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์

8) อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ

9) อุตสาหกรรมดิจิทัล และ

10) อุตสาหกรรมแพทย์ครบวงจร และ 3 โครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่  1) อุตสาหกรรมระบบราง  2) อุตสาหกรรมพาณิชย์นาวี และ  3) อุตสาหกรรมโลจิสติกส์

โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรีและระดับอาชีวศึกษาเห็นความสำคัญของสาขาวิชาที่เป็นความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย และสนใจอยากเข้าศึกษาเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการต่อยอดให้กับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และ 3 โครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นความต้องการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เช่น EEC และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ที่กำลังศึกษาหรือกำลังจะเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี และระดับอาชีวศึกษาที่อยู่ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3 โครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนเป็นการป้อนกำลังคนในสายอาชีวะ/สายวิชาชีพ ที่ยังขาดแคลนให้ตลาดแรงงานอื่นๆ อีกด้วย” ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าว