คน Gen Z หันใช้เงินสดในภาวะเงินเฟ้อ - ใช้เงินอย่างไรในภาวะเงินเฟ้อ

Gen Z ใช้เงินสดมากขึ้นท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ

อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 2566
  • Share :
  • 6,111 Reads   

คน Gen Z ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความชื่นชอบเทคโนโลยีและวิธีการชำระเงินแบบดิจิทัล เมื่อต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วง 2 ปีนี้ ทำให้ Gen Z หันไปใช้เงินสดเป็นเครื่องมือในการจัดทำงบประมาณ แนวโน้มที่คาดไม่ถึงนี้ชี้ให้เห็นถึงความน่าดึงดูดใจของเงินสดในการจัดการการเงินส่วนบุคคล

Advertisement

ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น คน Gen Z ได้ค้นพบมูลค่าของเงินสดอีกครั้งในฐานะ “เครื่องมือในการจัดทำงบประมาณ” โดยใช้ประโยชน์จากมันมากกว่าคนรุ่นอื่น ๆ โดย Credit Karma สถาบันการเงินจากสหรัฐฯ ได้ทำการสำรวจออนไลน์ในเรื่องการใช้เงินสดของกลุ่มคนในช่วงวัยต่าง ๆ รวม 2,118 คน ซึ่งมีกลุ่มคน Gen Z 331 คนที่มีอายุระหว่าง 18 - 26 ปี พบว่า เกือบ 70% ของกลุ่มคน Gen Z ใช้เงินสดมากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มคน Gen X ที่ 47% และกลุ่ม Baby Boomers ที่ 37%

การใช้เงินสดเป็น “เครื่องมือในการจัดทำงบประมาณ”

การจัดทำงบประมาณเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คน Gen Z พึ่งพาเงินสดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่สูง ความผันผวนของตลาดหุ้น และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การจัดการรายได้ที่จำกัดและการหลีกเลี่ยงหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กลุ่มคน Gen Z หันมาใช้เงินสดเป็นเครื่องมือในการควบคุมทางการเงิน วิธีการนี้เรียกว่า “Cash Stuffing” การแยกเงินสดใส่ซองเงินทุกต้นเดือนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประเภทต่าง ๆ เช่น ร้านขายของชำ เสื้อผ้า และความบันเทิง เงินสดที่จัดสรรสำหรับแต่ละประเภทจะกลายเป็นวงเงินใช้จ่ายสำหรับเดือนนั้น

การแยกซองเงินนี้ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z การสำรวจพบว่า 72% ของคน Gen Z คุ้นเคยกับการแยกซองเงิน โดย 30% ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำงบประมาณและการออม ตั้งแต่นำวิธีนี้มาใช้ 89% ของชาว Gen Z สามารถเพิ่มเงินออมได้ ในขณะที่ 70% ประสบความสำเร็จในการลดค่าใช้จ่ายรายเดือน

ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงส่งผลกระทบต่อการเงินในครัวเรือน การเปลี่ยนไปใช้เงินสดของคน Gen Z เน้นให้เห็นถึงแนวทางเชิงรุกในการจัดการทางการเงิ นและประสิทธิผลของการจัดทำงบประมาณในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน

Cash Stuffing เป็นเรื่องใหม่หรือไม่? 

การแยกซองเงินนี้ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องใหม่ คนรุ่นเก่าหลายคนยังคงชอบเงินสดเพราะความเรียบง่ายและผลประโยชน์ด้านงบประมาณ โดยระบุว่าการใช้เงินสดทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายประจำวันได้ และช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงทางดิจิทัล

ในขณะที่ยอดใช้จ่ายในบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อสิ้นปีที่แล้ว แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับการใช้เงินสดที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ชาวอเมริกันโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวต้องเผชิญกับหนี้บัตรเครดิตที่เพิ่มสูงขึ้น พวกเขาจึงพยายามหาวิธีที่จะจำกัดหนี้ดังกล่าว การถือเงินสดเป็นวิธีการหนึ่ง ประมาณ 20% ของคน Gen Z เชื่อว่าการใช้เงินสดทำให้พวกเขามีความรอบคอบมากขึ้นในการใช้จ่าย ซึ่งในความเป็นจริง ในกลุ่ม Gen Z ที่ชำระเงินด้วยเงินสด 64% อ้างว่าทำให้ใช้จ่ายน้อยลง สิ่งนี้เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของเงินสดในฐานะเครื่องมือจัดทำงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเกินตัวด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต

อย่างไรก็ตาม Credit Karma ไม่แนะนำให้ละทิ้งบัตรเครดิต การสร้างและรักษาเครดิตที่ดียังคงมีความสำคัญ เพียงแต่ต้องใช้บัตรเครดิตอย่างมีความรับผิดชอบต่อไปเพื่อสร้างประวัติเครดิต ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงกำหนดการใช้บัตรเฉพาะสำหรับค่าใช้จ่ายบางอย่างเท่านั้น เช่น ค่าน้ำมัน การสร้างคะแนนเครดิตที่แข็งแกร่งจะเปิดประตูสู่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีขึ้น เช่น สินเชื่อรถยนต์และการจำนองในอนาคต

สรุปบทความ

การแยกซองเงินไม่ใช่แนวคิดใหม่ และคนรุ่นเก่าก็รับรู้ถึงประโยชน์ของการใช้เงินสดเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำงบประมาณมานานแล้ว ในขณะที่หนี้บัตรเครดิตยังคงเป็นปัญหาอยู่ การใช้บัตรเครดิตอย่างรับผิดชอบจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างและปรับปรุงความน่าเชื่อถือทางเครดิต

 

#GenZ #ใช้เงินสด #เงินเฟ้อ #Mreport #ข่าวอุตสาหกรรม

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH