ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย 2566 มิถุนายน

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย มิ.ย. 66 เพิ่มขึ้น 13 เดือนติด

อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 2566
  • Share :
  • 30,262 Reads   

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC Confidence Index) ประจำเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ระดับ 55.2 เพิ่มขึ้น 1.6 จากเดือนก่อนหน้า การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลให้ค่าดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 13 เดือน 

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจสมาชิกผู้ประกอบการ 369 รายทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2566 พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 ค่าดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย อยู่ที่ระดับ 55.2 เพิ่มขึ้น 1.6 จากเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.6 ค่าดัชนีฯ อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 66 เดือน นับตั้งแต่เริ่มทำสำรวจ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว , ภาคธุรกิจเริ่มขยายการลงทุน และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น , ความคาดหวังต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ , การทรงตัวของราคาน้ำมันในเดือนที่ผ่านมา และค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล , ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว, ต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูง และการหดตัวต่อเนื่องของภาคการส่งออกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย

ปัจจัยด้านลบ

  • สถานการณ์ทางการเมืองมีความไม่แน่นอนสูงจากการจัดตั้งรัฐบาล และการดำเนินการในนโยบายต่าง ๆ
  • การฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าหลักยังคงมีความไม่แน่นอนสูง อาทิ จีน สหรัฐ และยุโรป ทำให้เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวอยู่
  • ต้นทุนการผลิตยังคงอยู่ในระดับสูง อาทิ ค่าไฟฟ้า วัตถุดิบการผลิต ส่งผลต่อความสามารถทางด้านการแข่งขันของไทย
  • อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทาให้ต้นทุนการเงินของผู้ประกอบการสูงขึ้น
  • ความเสี่ยงจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง (El Nino) ต่อภาคการเกษตรในประเทศ
  • ปัญหาค่าเชื้อเพลิง และพลังงาน รวมถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • การส่งออกของไทยเดือน พ.ค. 666 หดตัวร้อยละ 4.6 มูลค่าอยู่ที่ 24,340.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้าลดลงร้อยละ 3.4 มีมูลค่าอยู่ที่ 26,190.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,849.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • SET Index เดือน มิ.ย. 66 ปรับตัวลดลง 30.44 จุด จาก 1,533.54 ณ สิ้นเดือน พ.ค. 66 เป็น 1,503.10 ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 66

ปัจจัยด้านบวก

  • นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้ระดับรายได้ที่ได้จากนักท่องเที่ยวสูงขึ้น
  • ภาคธุรกิจเริ่มขยายการลงทุน และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
  • ความคาดหวังต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพื่อให้สามารถมีคณะรัฐบาลเข้ามาทำงานบริหารแก้ไขปัญหาของประเทศอย่างเร็วที่สุด
  • ราคาน้ำมันขายปลีกแก๊สโซฮอล ออกเทน 91 (E 10 ) และแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 ในประเทศและราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศ อยู่ในระดับทรงตัวจากเดือนที่ผ่านมา
  • ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับ 34.253 ฿/$ ณ สิ้นเดือน พ.ค. 666เป็น 34.923 ฿/$ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 666 ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อการผู้ส่งออกของไทย
  • ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นหรือทรงตัวส่งผลให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้สูงขึ้น และมีกาลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ และแนวทางการดำเนินการของภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา

  • ความชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ และความพร้อมในการดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ
  • การดูแลบริหารจัดการสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร และการดาเนินชีวิตในประจาวัน
  • ผลักดันการเจรจาเพื่อเปิดตลาดใหม่และเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันให้กับผู้ส่งออกไทย เพื่อทดแทนการส่งออกในประเทศหลัก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป
  • เร่งลดต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ที่ปรับสูงขึ้นและอาจเสียเปรียบคู่ค้าคู่แข่งที่สาคัญ
  • การปราบปราม และควบคุมการทุจริตคอรัปชันของหน่วยงานภาครัฐอย่างจริงจัง

 

#หอการค้า #หอการค้าไทย #สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย #ภาคเอกชน #โควิด-19 #วิกฤตโควิด 19 ผลกระทบ #ผลกระทบธุรกิจจากโควิด-19 #บรรเทาผลกระทบโควิด #เยียวยาโควิด #มาตรการควบคุมการระบาด #GDP #จีดีพี #เศรษฐกิจไทย

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH