ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย 2565 กรกฎาคม

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ก.ค. 65 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 2565

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC Confidence Index) ประจำเดือนกรกฎาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 37.9 เพิ่มขึ้น 1.6 ค่าดัชนีฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เอกชนยังห่วงเศรษฐกิจชะลอตัว วอนรัฐช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนพลังงาน

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจสมาชิกผู้ประกอบการ 369 รายทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2565 พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้น ค่าดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย อยู่ที่ระดับ 37.9 เพิ่มขึ้น 1.6 จากเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 36.3 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลัง ศบค. ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ และการผ่อนคลายให้เปิดสถานบันเทิงในบางพื้นที่ ตัวเลขคาดการณ์ GDP ขยายตัว 3.5% ของสศค. รวมถึง ยอดส่งออกไทยเดือนมิถุนายนที่เพิ่มขึ้น 11.85% แต่ยังคงได้รับผลกระทบจากความกังวลทางด้านเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวลง, สถานการณ์ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง, ปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ทรงตัวในระดับสูง , สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า และความวิตกกังวลต่อสถานการณ์โควิด เป็นต้น

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย

ปัจจัยด้านลบ

ความกังวลของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ตลอดจนปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ
สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกให้ช้าลง
ความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วม และนำป่าไหลหลากในบางพื้นที่ของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนส่งผลเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน
ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 34.972 ฿/$ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 65 เป็น 36.344 ฿/$ ณ สิ้นเดือน ก.ค. 65

ปัจจัยด้านบวก

ศบค. ได้ผ่อนคลายมาตรการในการเดินระหว่างประเทศ และยกเลิกระบบ Thailand Pass สำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 เป็นต้นไป ส่วนการบริโภคสุราหรือแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร สามารถเปิดได้ถึงเวลา 02.00 น. ตามที่กฎหมายกำหนด
สศค. ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะขยายตัวที่ 3.5% (ช่วงคาดการณ์ที่ 3.0-4.0%)
ราคาน้ำมันขายปลีกแก๊สโซฮอล ออกเทน 91 (E10) และแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 (E10) ในประเทศปรับตัวลดลงประมาณ 7.30 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศ ยังคงทรงตัวจากเดือนที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ระดับ 34.94 บาทต่อลิตร
การส่งออกของไทยเดือน มิ.ย. 65 ขยายตัวร้อยละ 11.85 มูลค่าอยู่ที่ 26,553.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 24.85 มีมูลค่าอยู่ที่ 28,082.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 1,529.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
SET Index เดือน ก.ค. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.08 จุด จาก 1,568.33 ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 65 เป็น 1,576.41 ณ สิ้นเดือน ก.ค. 65
ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นหรือทรงตัวในระดับที่ดี โดยเฉพาะมันสำปะหลัง ยางพารา และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ และแนวทางการดำเนินการของภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา

รัฐบาลควรดูแลเรื่องต้นทุนของผู้ประกอบการที่อยู่ในระดับที่สูงขึ้น จากระดับราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น
ปัญหาคุณภาพชีวิต ความเหลื่อมล้ำในการดำเนินชีวิตจากราคาสินค้าต่างๆ ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จนกระทบต่อการใช้ชีวิต และต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ
แนวทางการดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่จะเข้าไปท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย
แนวทางการป้องกัน และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลากเข้าบ้านเรือนประชาชน
แนวทางการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทั้งจากไวรัสโควิด 19 และฝีดาษลิงที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตภาคประชาชน และการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ
กระตุ้นประชาชนให้เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้เกิดผลรุนแรงหากได้มีการสัมผัสเชื้อ