ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย 2564 ตุลาคม

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ต.ค. 64 เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 2564

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC Confidence Index) ประจำเดือนตุลาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 19.9 เพิ่มขึ้น 0.5 จากเดือนก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ผลจากมาตรการผ่อนคลาย-การเปิดประเทศ

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจสมาชิกผู้ประกอบการ 369 รายทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21-29 ตุลาคม 2564 พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้น ค่าดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 19.9 เพิ่มขึ้น 0.5 จากเดือนกันยายน 2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 19.4 โดยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก หลังดัชนีลดลงต่อเนื่องนาน 6 เดือน เป็นผลจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง, มาตรการผ่อนคลายภาครัฐทำให้หลายธุรกิจกลับมาดำเนินการได้, การส่งออกไทยเดือน ก.ย. 64 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึง นโยบายเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย

ปัจจัยด้านลบ

ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยที่ถึงแม้จำนวนยอดติดเชื้อจะลดลง แต่ยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของ
ประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศทั้งปัจจุบันและในอนาคต
ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงผลผลิตทางการเกษตร
สศค. ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย ในปี 2564 เหลือ 1% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 0.5-1.5% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 1.3%
ความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองและสถานการณ์ทางด้านการเมือง ตลอดจนการชุมนุมทางการเมือง
ความกังวลด้านสภาพคล่องในการเปิดดำเนินกิจการของธุรกิจ หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการบางส่วน อีกทั้งผู้ประกอบการยังรู้สึกว่ารายได้จากการทำธุรกิจใน
ปัจจุบันไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยแก๊สโซฮอล ออกเทน 91 (E10) และแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 (E10) ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.40 บาทต่อลิตร
ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับ 33.037 ฿/$ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 64 เป็น 33.482 ฿/$ ณ สิ้นเดือน ต.ค. 64

ปัจจัยด้านบวก

จำนวนติดเชื้อรายวันในประเทศมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมติผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมโรค ออก
มาตรการผ่อนคลายจากภาครัฐที่เปิดให้มีการนั่งกินในร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ สนามกีฬา เป็นต้น ทำให้กิจกรรมหลาย ๆ อย่างสามารถกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น
นโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 63 ประเทศแบบไม่ต้องกักตัวโดยมีผล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
การส่งออกของไทยเดือน ก.ย. 64 ขยายตัวร้อยละ 17.1 มูลค่าอยู่ที่ 23,036 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 30.3 มีมูลค่าอยู่ที่ 22,426 ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 610 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
SET Index เดือน ต.ค. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.75 จุด จาก 1,605.68 ณ สิ้นเดือน ก.ย. 64 เป็น 1,623.43 ณ สิ้นเดือน ต.ค. 64
ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศ มีการปรับตัวลดลง ประมาณ 1.60 บาทต่อลิตร จากระดับ 31.29 บาทต่อลิตร ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2564 มาอยู่ที่ระดับ 29.69 บาทต่อ
ลิตร ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2564
ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นหรือทรงตัวในระดับที่ดี โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง ส่งผลให้เกษตรกรในบางพื้นที่เริ่มมีรายได้
สูงขึ้น และกำลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ และแนวทางการดำเนินการของภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา

เร่งเตรียมแผนป้องกันความเสี่ยงจากการเปิดประเทศ และการผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19
เร่งการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และให้ครอบคลุมทั้งประเทศ
เร่งการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนภายในประเทศ และส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดในรูปแบบที่ปลอดภัย
การหามาตรการลดต้นทุนการดำเนินการของภาคธุรกิจ หลังจากเปิดให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้ เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการดูแลตามมาตรการของรัฐทำให้ต้นทุนของธุรกิจสูงขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะ SMEs
มาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่

#หอการค้า #หอการค้าไทย #สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย #ภาคเอกชน #โควิด-19 #วัคซีนโควิด #วิกฤตโควิด 19 ผลกระทบ #ผลกระทบธุรกิจจากโควิด-19 #บรรเทาผลกระทบโควิด #มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ #มาตรการควบคุมการระบาด #GDP #จีดีพี #เศรษฐกิจไทย

บทความยอดนิยม 10 อันดับ