ภาวะเศรษฐกิจโลก ไตรมาส 1/2565

อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 2565

กองวิจัยเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) สรุปภาวะเศรษฐกิจโลกในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนได้จากทั้งการส่งออกและนำเข้าที่ขยายตัวช่วยให้การผลิตเติบโตตาม แม้ต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เศรษฐกิจโลกมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง ภายหลังหลายประเทศใช้นโยบาย Living with Covid เป็นปัจจัยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ สะท้อนได้จากการค้าระหว่างประเทศทั้งการส่งออกและนำเข้าที่ขยายตัวช่วยผลักดันให้การผลิตเติบโตตามไปด้วย ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น เนื่องจากราคาพลังงานอยู่ในระดับสูงตามราคาน้ำมันดิบและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ด้านอัตราการว่างงานยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลายประเทศคงอัตราเดิม เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.25-0.50

Advertisement

สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง ผลพวงจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน อีกทั้งกลุ่มโอเปกและโอเปกพลัสดำเนินการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้อุปทานตึงตัว ขณะที่อุปสงค์การใช้น้ำมันขยายตัวต่อเนื่องตามการดำเนินธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบดูไบ ไตรมาส 1 ปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 96.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล ขยายตัวขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 69.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล ด้านราคาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนมีนาคมเฉลี่ยอยู่ที่ 108.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล

สำหรับประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลก อาทิ ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงนโยบาย Zero Covid ของจีนที่แม้จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางพื้นที่ แต่อาจก่อให้เกิดการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานการผลิตและการขนส่ง กอปรกับราคาพลังงานยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นและส่งผลให้ต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น จึงอาจฉุดรั้งให้กำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวลงและอาจกดดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้า อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในประเทศคู่ค้าหลักของไทยยังคงส่งสัญญาณฟื้นตัวได้ดี รวมทั้งอุตสาหกรรมบางกลุ่มอาจขยายฐานตลาดส่งออกทดแทนสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรระหว่างรัสเซียกับประเทศที่ไม่สนับสนุนสงครามในตลาดโลกได้ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อการผลิตเพื่อรองรับตลาดส่งออกในระยะถัดไป