กกร. คาดจีดีพีไทยปี 63 ติดลบหนักสุด 9%

กกร. คาดจีดีพีไทยปี 63 ติดลบหนักสุด 9%

อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 2563
  • Share :
  • 321 Reads   

จากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประจำเดือนสิงหาคม โดย นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายสุพันธ์ุ มงคลสุธี ประธานกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, และนายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย ปี 2563 ลงมาเป็น -9.0% ถึง -7.0% ชี้เศรษฐกิจไทยขาดแรงขับเคลื่อนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก 

แม้เครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือนมิถุนายน 2563 จะหดตัวน้อยลง แต่เศรษฐกิจไทยโดยรวมก็ยังอ่อนแออยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เศรษฐกิจไทยคงจะหดตัวในอัตราเลขสองหลัก และในช่วงที่เหลือของปี 2563 เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงฉุดหลักจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยหลังการระบาดของโควิดยังเพิ่มสูงขึ้นและบางประเทศพบจำนวนผู้ติดเชื้อรอบใหม่ (จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ฮ่องกง เป็นต้น) ส่งผลให้การค้าและการเดินทางระหว่างประเทศคงยากที่จะฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว ขณะเดียวกัน เงินบาทที่ผันผวนและเริ่มมีทิศทางแข็งค่า ก็ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก นอกจากนี้ กำลังซื้อครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับความไม่แน่นอนในตลาดการจ้างงาน ยังเป็นปัจจัยลบที่กดดันการใช้จ่ายในประเทศอย่างต่อเนื่อง

ที่ประชุม กกร. มีความเป็นห่วงต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงข้างหน้า ซึ่งยังขาดแรงขับเคลื่อนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก ขณะที่มาตรการเยียวยาฯ กำลังจะสิ้นสุดลง และสถานการณ์การจ้างงานยังเปราะบาง ในการประชุมรอบนี้ กกร. จึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ลงมาเป็น -9.0% ถึง -7.0% (จาก -8.0% ถึง -5.0%) และปรับลดคาดการณ์การส่งออกลงมาที่ -12.0% ถึง -10.0% (จาก -10.0% ถึง -7.0%) ขณะที่ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปไว้ตามเดิม

 

กรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2563 ของ กกร.

ทั้งนี้ กกร. จะมีการจัดตั้งคณะทำงาน กกร. ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อร่วมกันจัดเตรียมแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการปฏิรูปเศรษฐกิจโดยจะมีการผลักดันแผน 4 เรื่องเพื่อให้เกิดผลได้จริง ได้แก่ 1. การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิง Wellness 2. การยกระดับการเกษตรมูลค่าสูง 3. การเพิ่มโอกาสของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กในธุรกิจเป้าหมาย และ 4. การยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนของภูมิภาค ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อสรุปแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจดังกล่าวแล้ว จะนำไปหารือและเสนอให้มีมาตรการช่วยเหลือจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ในเร็ว ๆ นี้  นอกจากนี้ กกร. จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการภาษีเพื่อจัดทำข้อเสนอมาตรการทางภาษี (ภาษีสรรพากร) เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19  ซึ่งข้อเสนอทั้งหมด กกร.จะนำเสนอรัฐบาลให้ได้พิจารณาต่อไป


อ่านต่อ: แถลงข่าว กกร. เดือน ก.ค. 63