♦ Mr. Toshihiro Mibe ประธานบริษัทฮอนด้าคนใหม่ เผยไทม์ไลน์รถยนต์ไฟฟ้า 2021 - 2050

♦ ฮอนด้าตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิงไว้ที่ 40% ของยอดขายทั่วโลกในปี 2030 และเพิ่มเป็น 80% ในปี 2035 จนไปถึง 100% ในปี 2040

Advertisement

เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฮอนด้า (Honda) ได้จัดงาน “Honda Global CEO Inaugural Press Conference” แถลงวิสัยทัศน์ในอนาคตของบริษัท โดย Mr. Toshihiro Mibe ประธานบริษัทฮอนด้าคนใหม่ผู้เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2021

เพื่อให้ฮอนด้าสอดคล้องไปกับเป้าหมาย Carbon Neutrality ของสหประชาชาติภายในปี 2050 Mr. Toshihiro Mibe ประธานบริษัทฮอนด้า เปิดเผยว่าฮอนด้ามีแผนลดการปล่อยก๊าซผ่านวิธีการมากมาย เช่นการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนในสายการผลิต เลือกใช้พลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอื่น ๆ ซึ่งประเด็นที่มีการวางไทม์ไลน์ไว้แล้วอย่างชัดเจน คือในส่วนของ  “tank-to-wheel” หรือการลดการปล่อยก๊าซจากยานยนต์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ไทม์ไลน์รถยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้า 2030 - 2050

• 2021 - เริ่มวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ all-solid-state ที่มีความจุสูง และต้นทุนการผลิตต่ำ โดยมีกำหนดทดสอบเทคโนโลยีสายการรุ่นสาธิตในปีงบประมาณนี้ 
• ครึ่งหลังของทศวรรษ 2020 - นำแบตเตอรี่ all-solid-state ที่พัฒนาแล้วไปใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ที่มีกำหนดเปิดตัวในช่วงปีนี้
• 2030 - แต่เดิมฮอนด้าตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดไว้ที่ 2 ใน 3 ของยอดขายทั่วโลกในปี 2030 แต่ได้มีการปรับตัวเลขขึ้นมาเป็น 40% ในประกาศฉบับล่าสุด ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิงอีกด้วย พร้อมติดตั้งระบบสนับสนุนการขับขี่ (Advanced driver-assistance systems: ADAS) ให้กับยานยนต์โมเดลที่ออกขายในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว ส่วนในประเทศกำลังพัฒนาฮอนด้าจะเน้นไปที่การร่วมสร้างความเข้าใจกับภาคการศึกษา เนื่องจากเล็งเห็นว่าอุบัติเหตุทางท้องถนนในประเทศเหล่านี้เกิดจากพฤติกรรมผู้ใช้ถนน ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายภาครัฐเป็นส่วนใหญ่
• 2035 - ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิงไว้ที่ 80% ของยอดขายทั่วโลก
• 2040 - ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิงไว้ที่ 100% ของยอดขายทั่วโลก
• 2050 - ยกระดับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นศูนย์ (zero traffic collision fatalities) รวมถึงอุบัติเหตุจากจักรยานยนต์ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

โดยฮอนด้ายอมรับว่าเป้าหมายนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากจรลอดกระบวนการซัพพลายเชน และเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก อย่างไรก็ตาม Mr. Toshihiro Mibe ประธานบริษัทฮอนด้าแสดงความเห็นว่า การตั้งเป้าหมายให้สูงไว้ก่อนเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง

ฮอนด้ามีรายละเอียดแนวทางการดำเนินงานในแต่ละภูมิภาค ดังนี้

• อเมริกาเหนือ - ยกระดับความร่วมมือกับเจเนรัลมอเตอร์ เพื่อร่วมพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ Ultium (Ultium Battery) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มทำการผลิตได้ในปี 2024 โดยจะแบ่งเป็นแบรนด์ฮอนด้า และแบรนด์ Acura และมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จากแพล็ตฟอร์ม e:Architecture หลังปี 2025 โดยมีเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ตั้งไว้
• จีน - มุ่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าจากทรัพยากรในจีน พร้อมตั้งเป้าเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ 10 รุ่นภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งโมเดลที่พัฒนาต่อจาก Honda SUV e:prototype มีกำหนดออกสู่ตลาดภายในปี 2022 พร้อมจับมือเป็นพันธมิตรกับ CATL โดยมีเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ตั้งไว้
• ญี่ปุ่น - มีเป้าหมายต่างจากไทม์ไลน์โดยรวม โดยตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ 20% ในปี 2030 เนื่องจากจะโฟกัสที่รถยนต์ไฮบริดมากกว่า ส่วนปี 2035 และ 2040 มีเป้าหมายตามเดิม โดยมีแผนเปิดตัว K-Car ไฟฟาภายในปี 2024 และจะหันมาใช้แบตเตอรี่ที่ผลิตภายในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมในประเทศ และมีกำหนดเปิดตัวรถยนต์อัตโนมัติ “Cruise Origin” ซึ่งพัฒนาร่วมกับ GM ที่ญี่ปุ่นภายในช่วงปี 2025

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

ในส่วนของจักรยานยนต์ Mr. Toshihiro Mibe ประธานบริษัทฮอนด้าเปิดเผยว่าบริษัทไม่เพียงแต่จะให้ความสำคัญกับจักรยานยนต์ไฟฟ้า แต่รวมถึงการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) อีกด้วย

โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของจักรยานยนต์ไฟฟ้าก็คือแบตเตอรี่ ซึ่งไม่ต่างกับรถยนต์ไฟฟ้ามากนัก อย่างไรก็ตาม จักรยานยนต์ส่วนใหญ่มีกลุ่มผู้ใช้อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา แต่แบตเตอรี่จักรยานยนต์ไฟฟ้ายังคงมีราคาสูง ฮอนด้าจึงจะมุ่งไปที่การตลาดแบบ B-to-B (business-to-business) และ B-to-G (business-to-national/local governments) แทน

ส่วนในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป Mr. Toshihiro Mibe กล่าวว่าฮอนด้าจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ให้รองรับมากกว่านี้ และต้องมีสถานีชาร์จไฟฟ้า หรือสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รองรับให้มากกว่านี้เสียก่อน ฮอนด้าจึงประสานความร่วมมือกับผู้ผลิตจักรยานยนต์ในญี่ปุนและยุโรป ร่างข้อตกลงพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบสลับได้ และมีแผนนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นอกจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในอนาคต เช่น รถสามล้อไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบในอินเดีย

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังมีแผนเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 รุ่นภายในปี 2024 อีกด้วย