ยักษ์ใหญ่เครื่องจักรและเครื่องมือญี่ปุ่นคาดการณ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขี่คลื่นชิปและอีวี
บริษัทเครื่องจักรและเครื่องมือชั้นนำของญี่ปุ่นคาดการณ์การเติบโตในปี 2567 โดยมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี การขยายธุรกิจต่างประเทศ และโซลูชันสำหรับความท้าทายด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อม โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในเซมิคอนดักเตอร์และยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม
-
โดยยักษ์ใหญ่อย่าง Yamazen มุ่งเน้นการส่งเสริมการขายเทคโนโลยีและการขยายธุรกิจในอินเดียและอเมริกาเหนือ
-
ด้าน Yuasa ตั้งเป้าที่จะบรรลุผลกำไรสูงสุดในรอบ 3 ปี มุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะในไทยและอินเดีย
| Advertisement | |
|
|
ญี่ปุ่น 27 พฤษภาคม 2567 บริษัทเครื่องจักรและเครื่องมือชั้นนำของญี่ปุ่นคาดการณ์รายได้และกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดมีนาคม 2568 ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม คาดว่าคำสั่งซื้อเครื่องจักรกลจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในเซมิคอนดักเตอร์และยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเหล่านี้ ปัจจัยที่น่ากังวล ได้แก่ ราคาวัตถุดิบและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นจากเงินเยนที่อ่อนค่า เศรษฐกิจจีนที่ซบเซา และผลกระทบจากการคุมเข้มทางการเงินทั่วโลกที่มีต่อการลงทุน
บริษัท Yamazen จะส่งเสริมการขายเทคโนโลยีกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมในปีงบประมาณ 2567 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2568) และมีแผนจะได้รับคำสั่งซื้อขนาดใหญ่จากกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์หลังจากฤดูร้อน ในตลาดต่างประเทศ Kishida Mitsuji ประธานบริษัท เผยว่าบริษัทมีแผนที่จะ “ขยายธุรกิจในอินเดียและอเมริกาเหนือซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว” ในทางกลับกัน เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวของการลงทุนในประเทศที่ช้าและแนวโน้มเศรษฐกิจในจีน บริษัทได้ปรับเป้าหมายการขายสำหรับปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของแผนการบริหารงานระยะกลางสามปี โดยลดลง 70 พันล้านเยนจากแผนเริ่มต้น
บริษัท Yuasa Shoji ตั้งเป้าทำกำไรสูงสุดในรอบสามปี โดย Tamura Hiroyuki ประธานบริษัท คาดการณ์ว่า “เครื่องจักรกลจะฟื้นตัวตั้งแต่เดือนสิงหาคมและกันยายน อานิสงส์จากความต้องการการผลิตเซมิคอนดักเตอร์” บริษัทให้ความสำคัญกับธุรกิจต่างประเทศในกลยุทธ์การเติบโต และจะพัฒนาธุรกิจในด้านต่าง ๆ เช่น สินค้าทุน สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย และการก่อสร้าง โดยมุ่งเป้าหมายที่ตลาดประเทศไทยและอินเดีย ซึ่งจะมีการสร้างอาคารสำนักงานใหม่ในประเทศไทยแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2567 และในอินเดีย บริษัทจะเพิ่มฐานเป็นสองเท่าขึ้นเป็นสี่แห่งภายในสิ้นปีงบประมาณ 2567 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2568)
บริษัท Tomita คาดการณ์ว่าจะเพิ่มยอดขายและกำไร รวมถึงจะยังคงเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในอินเดีย
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปีงบประมาณ 2567 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2568) บริษัท Tsubakimoto Kogyo โดยประธานบริษัท Masashi Koda เน้นย้ำว่า “เราสามารถบรรลุแผนของบริษัทได้โดยการเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อต่อสู้กับการขาดแคลนแรงงาน เช่น ระบบอัตโนมัติและการประหยัดแรงงาน” นอกจากขยายการขายอุปกรณ์ด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว บริษัทจะยังเสนออุปกรณ์สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ทุติยภูมิ (secondary battery) ในปริมาณมาก
ในขณะที่บริษัททั้งสี่เห็นการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรจากการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2567 แต่บริษัทอื่นอีกสี่แห่งเห็นการลดลงของรายได้และกำไรจากการดำเนินงานเนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา และยังไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน การขยายไปยังตลาดต่างประเทศเช่นอินเดียและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกคาดว่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการขยายธุรกิจ
เพื่อบรรลุแผนสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2568 บริษัทจำเป็นต้องปรับใช้กลยุทธ์ที่จะดึงดูดความต้องการการลงทุนด้านระบบอัตโนมัติ การประหยัดแรงงาน และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำโดยภาคส่วนเซมิคอนดักเตอร์และยานยนต์ ซึ่งอุปทาน กำลังฟื้นตัว
