Sharp ปลุกปั้นอนาคตใหม่ EV เป็นทางรอดหรือ?

อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 2567

Sharp กำลังเผชิญความท้าทายมากมาย รวมถึงการปรับโครงสร้างธุรกิจ LCD และเร่งความพยายามในการทำกำไร ธุรกิจใหม่ “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่เพิ่งเริ่มต้นและหวังจะเป็นทางรอด จำเป็นต้องพึ่งพาบริษัทแม่อย่าง Foxconn คำถามคือ Sharp จะสามารถแสดงแนวทางเฉพาะตัว “Sharp-ness” ความเหนือกว่าในธุรกิจ EV ได้หรือไม่?

Advertisement

ญี่ปุ่น 10 กันยายน 2567 - ชาร์ปจัดแสดงเทคโนโลยีของบริษัท Sharp tech-day “24” ในวันที่ 17 โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้โอกาสนี้ในการโปรโมทเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมถึงธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่บริษัทวางแผนจะเข้าร่วมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม รถยนต์ EV รุ่นเรือธงของบริษัทยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากความร่วมมือกับบริษัทแม่ Hon Hai Precision Industry Co., Ltd. ของไต้หวัน และยังคงต้องจับตามองว่า Sharp จะสามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองได้มากเพียงใด คำถามคือ บริษัทสามารถกลับมาเป็นอิสระได้หรือไม่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากนี้

“เราต้องการสร้างโลกที่เราสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในชีวิตประจำวันของเรา” Mototaka Taneya รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Sharp กล่าวอย่างภูมิใจในการแถลงข่าวก่อนวันแสดงเทคโนโลยีที่บริษัทจะแนะนำเทคโนโลยีกว่า 50 รายการ พร้อมเอกสารอธิบายเทคโนโลยี AI และ EV อย่างโดดเด่น

ไฮไลท์ของงานแสดงคือ รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ “LDK+” ที่ขยายแนวคิดพื้นที่อยู่อาศัยจะสร้างสภาพแวดล้อมภายในรถยนต์ที่สะดวกสบาย โดยเชื่อมโยงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน IoT (Internet of Things) และติดตั้งจอแสดงผลขนาดใหญ่ เป้าหมายคือการสร้าง EV ที่ “สร้างมูลค่าแม้จะจอดอยู่” (Taneya CTO)

Sharp ขาดความเชี่ยวชาญภายในองค์กรในการผลิตยานยนต์ สำหรับการผลิตจำนวนมาก พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพึ่งพา Foxconn ไปจนถึงแพลตฟอร์ม EV ก็จะถูกจัดหาโดย Foxconn ด้วยเช่นกัน CTO Taneya กล่าวว่า “อย่างน้อยที่สุด Sharp กำลังวางแผนและทำการตลาด” สำหรับรถต้นแบบ แต่คุณสมบัติต่าง ๆ เช่น จอแสดงผลและเทคโนโลยี IoT ที่เชื่อมโยงกับยานพาหนะนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ในตลาด EV ที่แข่งขันกันสูง

Sharp จะสามารถแสดงความเหนือกว่าในด้าน EV และ AI ได้หรือไม่? นอกจากนี้ บริษัทยังเผชิญกับความท้าทายในการปรับโครงสร้างธุรกิจเดิม เช่น จอแสดงผลคริสตัลเหลวและเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากขาดทุนติดต่อกันสองปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณสิ้นสุด 31 มีนาคม 2566 ชาร์ปประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ “อุปกรณ์” ซึ่งรวมถึงจอแสดงผลคริสตัลเหลวในเดือนพฤษภาคม 2567 โรงงาน Sakai ซึ่งผลิตแผง LCD ขนาดใหญ่สำหรับโทรทัศน์ หยุดการผลิตในเดือนสิงหาคม และบริษัทกำลังสำรวจตัวเลือกในการปรับปรุงที่ดินและอาคาร เช่น การแปลงเป็นศูนย์ข้อมูลหรือโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์

ชาร์ปถอนตัวจากธุรกิจ LCD เลิกผลิตจอทีวีขนาดใหญ่

รายละเอียดของความร่วมมือกับบริษัทอื่นยังไม่ชัดเจน แต่การเช่าพื้นที่เพียงอย่างเดียวจะไม่นำไปสู่การเติบโตในอนาคต ความต้องการจอ LCD ขนาดเล็กและขนาดกลางก็ลดลงเช่นกัน และบริษัทจำเป็นต้องแสดงเส้นทางสู่การทำกำไรอย่างรวดเร็ว

จุดแข็งของ Sharp คือความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครสู่ตลาด ซึ่งคู่แข่งไม่สามารถผลิตได้ผ่านการพัฒนาอย่างรวดเร็วทั่วทั้งองค์กร พนักงานระดับกลางคนหนึ่งกล่าวว่า “บริษัทมีความเร็วและความหลงใหลของสตาร์ทอัพ ดีเอ็นเอแบบนั้นอาจยังคงอยู่”

ในทางกลับกัน บริษัทขาดผลิตภัณฑ์และธุรกิจที่สามารถขับเคลื่อนการเติบโต และผู้ถือหุ้นบางรายวิจารณ์บริษัทว่า “ไม่มีผลิตภัณฑ์ยอดนิยม” ประธาน Masahiro Okitsu กล่าวว่า “ประมาณห้าปีหลังจากที่เราอยู่ภายใต้ร่มเงาของ Foxconn เราแทบไม่สามารถลงทุนในงานพัฒนาใหม่ได้เลย” เนื่องจากความพยายามของบริษัทในการหันเหจากธุรกิจ LCD ทำให้บริษัทอ่อนแอลง และไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเพียงพอจาก Foxconn

การสร้างพื้นที่การเติบโตผ่านธุรกิจแบรนด์

เพื่อกลับสู่เส้นทางการเติบโต บริษัทจำเป็นต้องสร้างพื้นที่การเติบโตจาก “ธุรกิจแบรนด์” เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ฯลฯ การจัดแสดงเทคโนโลยีสามารถมองได้ว่าเป็นคำตอบในปัจจุบันสำหรับปัญหานี้

ด้วยจุดแข็งของ EV และ AI ที่ไม่ชัดเจน ความท้าทายของบริษัทในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครคือการที่บริษัทสามารถกลับมาเป็นอิสระได้หรือไม่ รวมถึงการตัดสินใจลงทุน ในขณะที่ยังคงขอความร่วมมือจาก Foxconn