“เปลี่ยนหนี้พันล้านจากวิกฤตเศรษฐกิจ สู่ความเป็นผู้นำตลาดอย่างมั่นคง ต้องกล้าที่จะลงมือทำ เพื่อเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่แท้จริง แล้วเราจะรู้วิธีการที่จะพัฒนาสู่ความสำเร็จ”
 
เมื่อ “อุปสรรค” เป็นปัจจัยหนึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะพัฒนา จากการพลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสของ คุณอานนท์ เรืองจรุงพงศ์  ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทไทยสเตนเลสสตีล จำกัด ที่ต้องประสบกับปัญหาทางด้านการเงินจากการลอยตัวของค่าเงินบาท ในปี 2540 ทำให้บริษัทมีหนี้สินเพิ่มขึ้นกว่าสองพันล้านบาท จากสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทจึงต้องเข้าสู่กระบวนการปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการปรับโครงสร้างการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความอยู่รอดของบริษัท จนปัจจุบัน บริษัทไทยสเตนเลสสตีล จำกัด ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องครัวสเตนเลสที่มีคุณภาพสูงในตลาดโลก
 
บริษัทไทยสเตนเลสสตีล จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ในครัวเรือนจากโลหะ ก่อตั้งเมื่อปี 2514 โดย คุณมานะ เรืองจรุงพงศ์ เริ่มต้นกิจการด้วยการผลิตเครื่องครัวสเตนเลสสตีลออกสู่ตลาด ภายใต้แนวคิดที่ต้องการผลิตสินค้ามีคุณภาพ ทนทาน และปลอดภัย ให้แก่คนไทย ก่อนจะบุกเบิกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปีแรกของการก่อตั้งบริษัท
 
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้บุกเบิกตลาด “กระทะนอนสติ๊ก หรือ กระทะเคลือบสารกันติด (Nonstick Flypan)” ภายใต้ตราสินค้า “Seagull (ซีกัล)” จึงทำให้มีความเข้าใจผู้บริโภคคนไทยและสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการ โดยเฉพาะเรื่องความคงทนและเน้นคุณภาพ จนสามารถทำยอดขายได้เป็นอันดับ 1 ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และยังเป็นผู้ผลิตคนไทยเพียงรายเดียวที่มีเทคโนโลยีและดำเนินการผลิตกระทะนอนสติ๊กทั้งกระบวนการในประเทศไทย
 

ในช่วงแรกของการรับช่วงต่อนั้น ธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก จึงเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะต้องแก้ปัญหาดังกล่าว และบริหารธุรกิจให้สามารถก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปให้ได้
 
“ผมเชื่อว่าความมุ่งมั่นจะทำให้เรามองอุปสรรคเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ เราต้องศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยี  วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า และพัฒนาสินค้าของเราอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้”
 
นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการผลิตเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่คุณอานนท์ให้ความสำคัญ เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ผลิตชาวไทยให้เป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ  กระบวนการผลิตหลายอย่างถูกปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การติดตั้งระบบอัตโนมัติเพื่อมาใช้ในขั้นตอนการ Transfer Line ซึ่งกระบวนการผลิตในส่วนนี้ไม่ซับซ้อนมากนัก จึงทำให้ผลิตสินค้าได้เร็วยิ่งขึ้น คุณภาพคงที่ และยังช่วยลดต้นทุนจากการจัดจ้างแรงงานได้กว่า 50 คน โดยโอนย้ายแรงงานในส่วนการผลิตดังกล่าวไปทำงานในส่วนการผลิตอื่นที่ต้องใช้ทักษะการทำงานของพนักงาน นอกจากนี้ บริษัทมีการใช้แม่พิมพ์แบบ Progressive Tooling ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพการผลิตได้เป็นอย่างดี และยังสามารถรวบกระบวนการผลิตให้เสร็จได้ในขั้นตอนเดียว บริษัทยังมีการลงทุนเครื่องจักรที่ทันสมัยอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นการลดขั้นตอนการผลิตและประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น เครื่อง Servo press และเครื่อง Forging press ที่ทำให้สามารถออกแบบไลน์การผลิตให้ทำงานต่อเนื่องได้ จึงช่วยปรับปรุง Productivity และมีต้นทุนการผลิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  นอกจากนี้บริษัทยังมีการใช้ระบบ ERP เต็มรูปแบบในการเก็บข้อมูลการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อวิเคราะห์ระบบประสิทธิภาพในการผลิต ตรวจวัด Defect ในทุกๆ ขั้นตอน เพื่อนำมาพัฒนาการผลิต และนำสู่สินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุด
 
โดยปัจจุบัน บริษัทมีพนักงานฝ่ายผลิตไม่ถึง 1,000 คน และมียอดขายประมาณ 1,400 ล้านบาทต่อปี แต่หากเทียบเป็นรายได้การผลิตต่อคนต่อปี (Productivity per employee) จะสูงถึง 1 ล้านบาทในปี 2560
 
“ผมเชื่อว่าการทำธุรกิจ เราต้องไม่รู้เพียงแค่กระบวนการผลิต แต่เราต้องมีความรู้รอบด้าน หมั่นวิเคราะห์แนวโน้มตลาดอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาสินค้าเราตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากที่สุด เมื่อลูกค้าพอใจ เราก็จะประสบความสำเร็จ”
 
ด้วยความเชื่อมั่น  และการลงมือทำโดยไม่หยุดที่จะพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของคุณอานนท์ เรืองจรุงพงศ์ แห่งไทยสเตนเลสสตีล ทำให้เราไม่แปลกใจเลยที่จะเห็น “ไทยสเตนเลสสตีล” ก้าวผ่านอุปสรรค จนกลายเป็น “ผู้นำ” ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือน