“เราจะต้องรู้จักทรัพยากรในองค์กรให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรบุคคล หรือเทคโนโลยี เพื่อที่จะรู้ว่าเราขาดอะไรบ้าง แล้วเราจะต้องบริหารองค์กรไปในทิศทางใด” 
 
ปัจจุบันการบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ มีสำคัญอย่างมากต่อองค์กรทุกประเภททุกขนาด โดยเฉพาะทรัพยากรบุคคล ที่อาจเรียกได้ว่า ตัวชี้วัดความสำเร็จอย่างยั่งยืนขององค์กรอยู่ที่ "คุณภาพของคน" การบริหารองค์กรที่เน้นการพัฒนาคนจึงเป็นศาสตร์การบริหารที่ บริษัท ไมโคร ปรีซิชั่น จำกัด ให้ความสำคัญ และเป็นเมล็ดพันธ์ต่อยอดความสำเร็จสู่องค์กร
 
บริษัท ไมโคร ปรีซิชั่น จำกัด เป็นบริษัทขนาดกลางที่บ่มเพาะประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านงานผลิตแม่พิมพ์และชิ้นงานอะลูมิเนียมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 จนได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแม่พิมพ์และชิ้นงานอะลูมิเนียมแถวหน้าของไทย โดยมุ่งเน้นการผลิตแม่พิมพ์ฉีดขึ้นรูปอะลูมิเนียมไดคาสติ้ง งานฉีดชิ้นงานอะลูมิเนียมไดคาสติ้ง และงานแมชชีนนิ่งชิ้นงานอะลูมิเนียม ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพสูง จึงได้รับความไว้วางใจให้ผลิตชิ้นงานส่งออกไปยังแผนกอุปกรณ์ของใช้ในบ้านของบริษัทพานาโซนิค ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
 
แรกเริ่ม บริษัท ไมโคร ปรีซิชั่น จำกัด ก่อตั้งโดย คุณสมศักดิ์ รวยสว่างบุญ และผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่น ๆ แต่ในภายหลังนั้น การดำเนินธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ร่วมก่อตั้งทั้งหมดขายหุ้นทิ้ง เหลือเพียงคุณสมศักดิ์เท่านั้นที่ต้องการกอบกู้ธุรกิจไว้และรับซื้อหุ้นทั้งหมดคืนมา ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงเปรียบเสมือนเดิมพันสำคัญของครอบครัวรวยสว่างบุญ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ คุณวรุตม์ รวยสว่างบุญ เข้ามาร่วมทำงานในบริษัทนี้อย่างเต็มกำลังเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจให้ได้
 
หัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงเวลาสำคัญของผู้บริหารหน้าใหม่อย่างคุณวรุตม์ เข้ามาเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อความอยู่รอดของบริษัท ทั้งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารครั้งใหญ่ การปรับเปลี่ยนพอร์ตการหารายได้ ไปจนถึงการลงทุนเทคโนโลยีที่ทันสมัยในทุก ๆ ปีอย่างต่อเนื่อง
 
วัฒนธรรมการทำงานในแบบใหม่ได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้พนักงานในองค์กร “ทำงานเป็นทีม-มีส่วนร่วมแสดงความเห็น-แบ่งงานชัดเจนมีระบบ” นอกจากนี้ ยังสนับสนุนบรรยากาศการทำงานแบบเป็นมิตร มีจิตเอื้อเฟือที่จะร่วมมือกันให้งานลุล่วงได้ผลสำเร็จตามเป้าหมาย

“วัฒนธรรมองค์กรบางอย่างอาจจะส่งผลเสียต่อการทำงานได้ เช่น การแบ่งงานแบบเดิม ๆ ที่ไม่เป็นระบบก็จะทำให้การทำงานล่าช้า การปรับเปลี่ยนให้องค์กรทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีการพูดคุยกันในการทำงาน จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
 
จุดพลิกฟื้น การปรับเปลี่ยนพอร์ตการหารายได้ โดยหันไปรับงานผลิตจากบริษัทญี่ปุ่นมากขึ้น นับเป็นจุดพลิกฟื้นธุรกิจ ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ระบบการผลิตมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประหยัดต้นทุนแรงงานได้มากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายนั้น นำสู่การมีต้นทุนที่ดีกว่า และมาพร้อมกับคุณภาพของงานผลิตที่เหนือกว่าอีกด้วย อาทิเช่น การเปลี่ยนเครื่องจักร CNC รุ่นใหม่ที่มีความเร็วรอบมากกว่าเดิมสองเท่า, การใช้หุ่นยนต์ทำงานทดแทนคนในสภาพแวดล้อมที่อันตราย และมีอุณหภูมิสูง อย่างเช่น หุ่นยนต์พ่นน้ำยาเคลือบหน้าแม่พิมพ์ ซึ่งนอกเหนือจากการรักษาความเสถียรของการพ่นน้ำยาอย่างมีประสิทธิภาพได้ตลอดเวลาแล้ว ยังสามารถทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงได้อย่างมาก หุ่นยนต์ตกแต่งชิ้นงานที่สามารถทำงานทดแทนคนได้ถึง 6 คน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีด้านดิจิทัล โดยได้นำระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) ซึ่งใช้ในการจัดการและวางแผนการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ขององค์กร โดยเชื่อมโยงระบบงานทั้งหมดเข้าด้วยกัน มาปรับใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และเพิ่มความแม่นยำในการตรวจเช็ควัตถุดิบ สินค้าระหว่างการผลิต และสินค้าที่พร้อมส่งมอบ ทำให้บริษัทสามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นในระบบการผลิตได้อีกด้วย
 
การดำเนินงานในระยะเวลา 4 ปี นับแต่ คุณวรุตม์ รวยสว่างบุญ เข้ามาบริหารงานนั้น ได้พิสูจน์ผลงานนำพาไมโคร ปรีซิชั่น พลิกฟื้นจาก ‘ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง’ เป็นผู้ผลิตแม่พิมพ์และชิ้นงานอะลูมิเนียมแถวหน้าของไทยที่ ‘เติบโตอย่างต่อเนื่อง’ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ