คุณชูลิต จาติเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซมโก้ จำกัด (SAMCO)

SAMCO มีดีอะไร ถึงอยู่ในวงการชิ้นส่วนยานยนต์มา 30 ปี

อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 2562
  • Share :
  • 5,924 Reads   

หนึ่งในผู้ประกอบการผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีความโดดเด่นในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย บริษัท แซมโก้ จำกัด หรือชื่อเต็ม Standard Auto Manufacturing Co .,Ltd. (SAMCO) ที่เติบโตมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ความเข้มแข้งด้านองค์ความรู้ทางวิศวกรรมที่หลากหลาย กระบวนการผลิตที่ครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการขึ้นรูปโลหะ ไปจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยได้รับมาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพในระดับสากล ISO9000 และมาตรฐานเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ IATF 16949 ปัจจุบันได้ผลิตชิ้นส่วนครอบคลุมทั้งรถยนต์ รถบรรทุก และรถจักรยานยนต์ รวมไปจนถึงเครื่องจักรกลการเกษตร โดยเป็น OEM ให้กับหลายค่าย อาทิ  Isuzu Motors, Mitsubishi Motors, Honda, Yamaha, Toyota 


คุณชูลิต จาติเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซมโก้ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวอุตสาหกรรม M Report ถึงภาพรวมธุรกิจในปี 2562 เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นหัวใจของแซมโก้ และแผนการลงทุนในระยะ 3 ปี รวมถึงยุทธศาสตร์ขององค์กรต่อกระแส EV ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าไว้อย่างน่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อวงการอุตสาหกรรมยายนต์ในหลากหลายประเด็น


อัปเดตธุรกิจของ SAMCO ในปี 2562   

เราผลิตสินค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ Tools Set เป็นชุดเครื่องมือติดรถยนต์ที่ทำส่งโรงงานประกอบรถยนต์ และ Suspension Parts ระบบชิ้นส่วนช่วงล่างของรถยนต์ ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัย ในระบบคันชักคันส่งพวงมาลัยของเครื่องยนต์ 

SAMCO สินค้าหลัก Tools Set, Suspension Parts

SAMCO มีสัดส่วนในการขายสู่ตลาดในประเทศถึง 90% และตลาดต่างประเทศอีก 10% โดยส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ค่ายรถรายใหญ่ทั้ง Isuzu Motors, Mitsubishi Motors, Honda, Yamaha, Toyota  เหล่านี้ล้วนเป็นลูกค้ารายสำคัญที่ไว้วางใจในคุณภาพสินค้าของ SAMCO ทั้งสิ้น 

SAMCO สัดส่วนการขายตามประเภทยานยนต์


ผลพลอยได้จากเทคโนโลยี คือคุณภาพของผลิตภัณฑ์

SAMCO เองมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีในหลากหลายมิติอย่างเข้มข้น ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นหัวใจหลักมีอยู่ 2 เทคโนโลยี คือ Hot Forging หรือการขึ้นรูปร้อน เป็นกระบวนการที่นำเอาเหล็กมาเผาให้ได้ความร้อนในระดับที่ต้องการ จากนั้นนำไปเข้าแม่พิมพ์เพื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นงาน ซึ่งเรามี Partner ทีมีความเชี่ยวชาญด้านงาน Hot Forging แบบ Precision จากประเทศญีปุ่น จึงได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้เทคโนโลยีต่าง ๆ ร่วมกันมาโดยตลอด จนได้มาลงทุนเปิดบริษัทร่วมกันในประเทศไทยด้วย

อีกเทคโนโลยีก็คือ Machining หรือขั้นตอนการกลึง ใส กัด เจาะ โดยเรามีความรว่มมือกับ Supplier ในการปรับปรุงเพื่อหา Solution การผลิตที่ดี และต้นทุนการผลิตที่แข่งขันได้ ปัจจุบัน Taegutec Thailand ได้เข้ามาช่วยเราตรงนี้ มีการเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ และให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ส่งตรงทีมงานคุณภาพจากประเทศเกาหลีมาช่วยดูแล ปรับปรุงคุณภาพชิ้นงาน โดยการให้คำแนะนำในการเลือก Cutting Tools ที่เหมาะสมกับลักษณะของชิ้นงานและเครื่องจักร ซึ่งนอกจากจะได้คุณภาพชิ้นงานที่ดีแล้ว Taegutec ยังสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิตได้สูงถึง 30-40% จากเดิม และแน่นอนว่า SAMCO ยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของทาง Taegutec ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตอบสนองอายุการใช้งานที่ยาวนาน

“เรามี Supplier ในการปรับปรุง ต่อยอด เพื่อหา Solution ของชิ้นงานที่ดี และต้นทุนการผลิตที่แข่งขันได้ อย่าง Taegutec Thailand ที่เข้ามาช่วยดูแล”

ตัวอย่าง Solution ดี ๆ จาก Taegutec 

เดิมทีแล้ว SAMCO ใช้ Solid Carbide ในงานเจาะซึ่งเมื่อ Tool Life หมด ต้องนำไป Regrind และ Coating ใหม่ เพื่อนำกลับมาใช้อีก แต่เมื่อนำกลับมาใช้แล้ว ก็มีปัญหา Tool Life ต่ำมาก โดย Taegutec เสนอโซลูชันที่ให้ cost/piece (ต้นทุนต่อชิ้นงาน) ต่ำ โดยเปลี่ยนให้ใช้เป็น Indexable Insert (เม็ดมีด) แทน ทำให้วางแผนและควบคุมการผลิตได้ตามเป้าหมาย รู้ Tool Life ล่วงหน้าว่า 1 เม็ดจะสามารถผลิตงานได้กี่ชิ้น 

“หากผู้ผลิตไม่พัฒนาตัวเอง อาจสูญเสียความสามารถทางการแข่งขัน เพราะหากเราไม่สามารถปรับลดราคาได้ตามควมต้องการของลูกค้า โอกาสที่จะสูญเสียธุรกิจก็เพิ่มขึ้น”

 

แผนการลงทุนของ SAMCO และคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจ

คุณชูลิต ได้เปิดเผยแผนการลงทุนว่า ในช่วง 1-3 ปีต่อจากนี้ จะเน้นการลงทุนที่จะนำมาซึ่งประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น โดย SAMCO จะให้ความสำคัญไปที่ 2 ส่วนหลักคือ

1. ระบบ Automation ที่จะเข้ามาทดแทนแรงงานที่หายากขึ้น

2. ระบบ Software ที่จะเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการงานและส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิต 


และสิ่งที่เป็นทั้งแผนการ และเป้าหมายหลักต่อจากนี้ก็คือ “เราต้องการเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในงานแปรรูปโลหะในระดับแถวหน้าที่สามารถเข้าไปแข่งขันกับผู้ผลิตจากต่างประเทศได้”  ในส่วนของรายได้นั้น บริษัทตั้งเป้าด้วยความมั่นใจว่า ในระยะ 3 ปีข้างหน้า ยอดขายจะต้องโตขึ้น 30-40% จากปี 2561 


เมื่อถามถึงสภาพการแข่งขันในธุรกิจยานยนต์ คุณชูลิตก็ได้เล่าถึงความเข้มข้นในการแข่งขันว่า ปัจจุบันการแข่งขันของตลาดผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ค่อนข้างสูงขึ้น  ทั้งในเรื่องของความต้องการสินค้าที่คุณภาพและมาตรฐานสูงขึ้น ในทางกลับกันราคาต้องถูกลง เนื่องจากลูกค้าส่วนใญ่จะ Sourcing สินค้าเทียบกันจากทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันเพราะต้องเจอการแข่งขันใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น SAMCO จึงให้ความสำคัญกับโครงสร้างต้นทุนในทุกมิติอย่างจริงจัง

“เมื่อการแข่งขันเข้มขึ้นทุกวัน และเราต้องการที่จะอยู่รอด ในฐานะผู้ร่วมแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ เราก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา”

เมื่อยุคแห่ง EV มาถึง SAMCO จะอยู่อย่างไร

แม่ทัพแห่ง SAMCO ตอบอย่างมาดมั่นด้วยเสียงดังฟังชัดว่า แน่นอนที่สุดว่า SAMCO จะต้องอยู่รอดในอุตสาหกรรมยานยนต์นี้ได้ และจะไม่ทิ้งโอกาสที่จะหาตลาดใหม่ ๆ มาเสริมทัพให้ SAMCO  เข้มแข็ง โดยการขยายธุรกิจให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น เร่งพัฒนาสินค้ากลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตร ศึกษาและทำการตลาดในส่วนของรถไฟและระบบราง พัฒนาชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญซึ่งเราต้องเริ่มทบทวน มุ่งมั่นเพื่อนำไปสู่การพัฒนาก็คือ การหันกลับมาสร้างผลิตภัณฑ์แบรนด์ของตัวเอง ตามที่คุณชลิต จาติเสถียร ได้ทำเมื่อครั้งเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ SAMCO ผ่านพ้นภาวะความเสี่ยง อีกนัยนึงยังอาจสร้างโอกาสการเติบโตได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าอนาคตของตลาดรถยนต์จะเป็นอย่างไรก็ตาม


“สำหรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่กำลังมาแรงในตอนนี้  จะส่งผลให้ชิ้นส่วนในรถยนต์ ลดปริมาณลงมาก และชิ้นส่วนจะต้องมีความ Precision สูงมาก แน่นอนว่าย่อมเป็นอุปสรรคของ SAMCO ที่เราต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่หากมองในมุมของโอกาสก็มีอยู่มาก คือถ้าเราต้องการที่จะอยู่รอด และร่วมแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ เราต้องเร่งพัฒนา แม้ EV จะเข้ามาหรือไม่ก็ตาม”